บิทคอยน์กลับมาทำสถิติสูงสุดในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา และเป็นเพียงการเริ่มต้นของการเพิ่มขึ้นที่มากขึ้นของสกุลเงินดิจิทัล กล่าวโดยมหาเศรษฐีสหรัฐฯ ไมค์ โนโวกราทซ์
ซีอีโอของ Galaxy Digital ซึ่งเป็นบริษัทที่เน้นการลงทุนและธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับคริปโต ได้กล่าวว่าการเลือกตั้งของโดนัลด์ ทรัมป์ เป็นประธานาธิบดีนั้นเป็น “เหตุการณ์สำคัญที่สุด” ที่เกิดขึ้นกับสินทรัพย์ดิจิทัลในรอบหลายปี
โนโวกราทซ์จะเข้าร่วมงานประชุม Sohn Hearts & Minds ที่แอดิเลดในสัปดาห์นี้ แม้ว่าเขาจะสนับสนุนการรณรงค์ของคามาลา แฮร์ริส แต่เขาก็ได้รับประโยชน์จากชัยชนะของทรัมป์ โดยทรัพย์สินสุทธิของเขาเพิ่มขึ้นเกือบ 1 พันล้านดอลลาร์ในวันเดียวเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา บลูมเบิร์กประเมินว่าความมั่งคั่งส่วนตัวของเขาเพิ่มขึ้นถึง 4.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
โนโวกราทซ์ อดีตหุ้นส่วนของ Goldman Sachs และ Fortress Investment Group กล่าวว่า บิทคอยน์น่าจะเพิ่มขึ้นจากระดับปัจจุบันที่ใกล้เคียงกับ 75,000 ดอลลาร์สหรัฐ ไปจนถึง 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ ภายในสิ้นปีนี้ เนื่องจากสหรัฐฯ เตรียมพร้อมสำหรับประธานาธิบดีที่สนับสนุนคริปโตและการปรับเปลี่ยนข้อบังคับ
เขายังเสริมอีกว่า คนในวงในของทรัมป์หลายคนเป็นผู้สนับสนุนคริปโต รวมถึงรองประธานาธิบดีที่กำลังจะได้รับเลือก JD Vance
“ผมคิดว่านี่เป็นเหตุการณ์สำคัญที่สุดที่เกิดขึ้นกับธุรกิจของผม Galaxy และอุตสาหกรรมคริปโตในรอบสี่ปี” เขากล่าว
“ในสหรัฐฯ เราเหมือนติดอยู่ในที่ระหว่างสวรรค์และนรก สถานการณ์ที่เรายังไม่สามารถก้าวหน้าได้”
โนโวกราทซ์กล่าวว่า หน่วยงานกำกับดูแลของสหรัฐฯ ทำให้ชีวิตของบริษัทคริปโตยากลำบากมาก
“แต่ทรัมป์จะเปลี่ยนสิ่งเหล่านี้” เขากล่าว
“เขาเข้าสู่การเลือกตั้งด้วยแพลตฟอร์มที่สนับสนุนคริปโต ผู้สนับสนุนคริปโตบริจาคเงินมากมายให้กับการรณรงค์ของเขา เขาให้คำมั่นสัญญาและอยู่รายล้อมไปด้วยคนในวงการคริปโต ทีมงานของเขาหลายคนชอบอุตสาหกรรมของเรา”
โนโวกราทซ์กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบที่อาจเกิดขึ้นจะทำให้สถาบันขนาดใหญ่เช่น Goldman Sachs และ Citibank สามารถถือครองคริปโตในงบดุลของพวกเขาได้ ซึ่งจะดึงดูดเงินทุนจากองค์กรขนาดใหญ่เข้ามามากขึ้น
“Galaxy ถูกตั้งขึ้นมาเพื่อดึงดูดเงินจากสถาบัน และเราทำได้ดีทีเดียว แต่เรายังเดินทางมาได้แค่ประมาณ 20 หลา หรืออาจแค่ 15 หลา สำหรับนักลงทุนที่ชอบเสี่ยง”
“แต่สำหรับเงินทุนขนาดใหญ่ ๆ มันยังรออยู่ ผมคิดว่านั่นจะเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่สุด”
“คุณได้เห็นราคาบิทคอยน์พุ่งขึ้น 15% ราคาของอีเธอเรียมขึ้น 15-20% ผมคิดว่ามันจะยังคงไปต่อ เราผ่านจุดสูงสุดตลอดกาลมาแล้ว หุ้นของเรามีวันที่ยิ่งใหญ่สองวันติดต่อกัน เพราะผู้คนเริ่มตระหนักว่า รัฐบาลกำลังจะส่งแรงผลักดันเชิงบวกแทนที่จะเป็นอุปสรรค”
โนโวกราทซ์จะพูดคุยร่วมกับ John O’Loghlen ผู้อำนวยการประเทศของ Coinbase ในงานประชุม Sohn Hearts & Minds ครั้งนี้เกี่ยวกับอนาคตของสินทรัพย์ดิจิทัลและโอกาสที่เกี่ยวข้อง
“มันจะเป็นการพูดคุยแบบเปิดใจมากกว่าเป็นการนำเสนอโครงการหนึ่งโครงการแบบงาน Sohn แบบดั้งเดิม” เขากล่าว
“แต่แนวคิดที่ผมจะเสนอ ซึ่งจะสะท้อนออกมาในทุกคำตอบ คือว่านี่คือบทใหม่ที่เพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น”
โนโวกราทซ์ยังไม่ได้เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งที่เขาคิดว่าจะเป็นสิ่งใหญ่ต่อไปในวงการคริปโต
“ผมจะเก็บบางเรื่องไว้สำหรับงานประชุม ผมไม่อยากบอกทุกอย่างตอนนี้”
เกี่ยวกับการคาดการณ์ราคาบิทคอยน์ โนโวกราทซ์กล่าวว่า “ผมคิดว่าเราจะไปถึง 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ ภายในสิ้นปีนี้” ซึ่งไม่ถึงขั้นสุดขั้วเหมือนบางคนในวงการที่คาดว่าราคาจะไปถึงหลักล้านภายในห้าปี
“ฟองสบู่สามารถระเบิดได้” เขากล่าว “บิทคอยน์อาจขึ้นไปสูงกว่ามาก เช่น 500,000 ดอลลาร์ หรือแม้แต่ 1 ล้านดอลลาร์ ถ้าดอลลาร์สหรัฐเกิดปัญหาหนัก หากรัฐบาลไม่สามารถควบคุมค่าใช้จ่ายและหยุดขาดดุลที่บ้าคลั่งเหล่านี้ได้ และถ้าผู้คนเริ่มสูญเสียความเชื่อมั่นในดอลลาร์ มันก็ยากที่จะคาดการณ์ถึงเพดานสูงสุด”
โนโวกราทซ์ยังกล่าวอีกว่า เขาภาวนาว่าบิทคอยน์จะไม่ขึ้นไปถึง 1 ล้านดอลลาร์ แม้ว่ามันจะทำให้ความมั่งคั่งของเขาเพิ่มขึ้นอย่างมากก็ตาม
“ถ้าบิทคอยน์ไปถึง 1 ล้านดอลลาร์ นั่นหมายความว่าเราสูญเสียสังคมพลเรือนไปแล้ว”
“เมื่อคุณสูญเสียสกุลเงิน ซึ่งเราเคยเห็นในเวเนซุเอลาและซิมบับเว เมื่อคุณสูญเสียค่าเงิน คุณสูญเสียสังคมพลเมือง นั่นคือสถานการณ์ที่มันแย่จริง ๆ”
โนโวกราทซ์ยังกล่าวถึงบทบาทสำคัญของคริปโตและบล็อกเชนในการเติบโตของปัญญาประดิษฐ์ (AI) ว่า “ในอนาคต เงินจะถูกเคลื่อนย้ายระหว่างคอมพิวเตอร์ และคุณจะต้องใช้เงินดิจิทัลเพื่อทำธุรกรรมระหว่างคอมพิวเตอร์ นั่นคือสิ่งที่คริปโตจะทำ”
เขายังเชื่อว่า การเติบโตครั้งต่อไปของคริปโตจะไม่ซ้ำรอยการบูมสองครั้งก่อนหน้าในช่วงเจ็ดปีที่ผ่านมา
“ในปี 2017 และ 2021 ตอนที่เรามีช่วงความคลั่งไคล้ สกุลเงินคริปโตเป็นเกมใหม่และร้อนแรง และคนหนุ่มสาวทั่วโลกที่ติดอยู่บ้านเพราะโควิด มีเงินเหลือจากรัฐบาลที่แจกจ่ายให้ พวกเขาไม่มีที่ใช้เงินนั้น จึงเกิดความสนใจในการเก็งกำไรอย่างมาก”
โนโวกราทซ์ยังกล่าวถึงอนาคตของคริปโตที่จะเติบโตต่อไปในชุมชนคริปโตที่ตั้งหลักแล้ว เช่น บิทคอยน์ อีเธอเรียม โซลานา และอื่น ๆ
