ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ได้มีการประกาศว่า ไมค์ ไทสัน ตำนานนักมวย จะกลับมาขึ้นสังเวียนอีกครั้งหลังจากห่างหายไปเกือบ 20 ปี เพื่อเผชิญหน้ากับ เจค พอล ยูทูบเบอร์ที่กลายมาเป็นนักมวยอาชีพ การแข่งขันครั้งนี้เดิมทีมีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 20 กรกฎาคม แต่ถูกเลื่อนออกไปในช่วงปลายเดือนพฤษภาคม เนื่องจากไทสันมีปัญหาแผลในกระเพาะอาหาร
แต่ตอนนี้ทุกอย่างพร้อมแล้วสำหรับ “ผู้ชายที่โหดที่สุดในโลก” ไมค์ ไทสัน ที่จะต่อสู้กับ “เด็กปัญหา” เจค พอล ในการแข่งขันรุ่นเฮฟวี่เวท ที่สนามกีฬา AT&T ในเมืองอาร์ลิงตัน รัฐเท็กซัส ซึ่งจุคนได้ถึง 80,000 คน ในวันศุกร์ที่จะถึงนี้
การปะทะกันครั้งนี้เป็นการต่อสู้ระหว่างอดีตแชมป์โลกเฮฟวี่เวทวัย 58 ปี ที่เคยเป็นแชมป์ไร้พ่ายในยุคของสามเข็มขัด กับนักมวยวัย 27 ปี ที่มีประสบการณ์การแข่งขันระดับมืออาชีพประมาณสิบกว่าครั้ง นับตั้งแต่เริ่มต้นเส้นทางการชกมวยเมื่อปี 2020
คำถามที่หลายคนสงสัยคือ ไมค์ ไทสัน ผู้ที่ถูกยกให้เป็นรองในการเดิมพันครั้งนี้ จะสามารถเอาชนะความแตกต่างทางอายุที่มากถึง 31 ปีได้หรือไม่? หรือว่า เจค พอล จะสามารถคว้าชัยชนะเหนือหนึ่งในชื่อที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์วงการมวยได้?
การถ่ายทอดสดการแข่งขันหลักจะเริ่มต้นเวลา 8 p.m. ET / 7 p.m. CT / 5 p.m. PT โดยศึก Tyson vs. Paul เป็นคู่หลักของค่ำคืน หมายความว่า มันจะเป็นการชกปิดท้ายของรายการ
ยังมีการแข่งขันอื่นอีกสามคู่บนการ์ดหลัก รวมถึงแมตช์ชิงแชมป์สองคู่ โดยคู่รองเป็นการเจอกันอีกครั้งระหว่าง เคที เทย์เลอร์ และ อแมนด้า เซอร์ราโน ซึ่งมีตำแหน่งแชมป์ไร้พ่ายรุ่นซูเปอร์ไลท์เวทเป็นเดิมพัน
เทย์เลอร์และเซอร์ราโนเคยเจอกันมาแล้วในปี 2022 เมื่อพวกเธอกลายเป็นนักมวยหญิงคู่แรกที่ได้เป็นคู่เอกในสนาม Madison Square Garden ในนิวยอร์ก โดยครั้งนั้นเทย์เลอร์เอาชนะเซอร์ราโนด้วยคะแนนแบบแยกฝ่าย ในการแข่งขันที่ตื่นเต้นเร้าใจ
นี่คือภาพรวมของการ์ดหลักสำหรับการแข่งขัน Tyson vs. Paul (* หมายถึงเจ้าของตำแหน่งแชมป์):
การแข่งขันครั้งนี้จะไม่ออกอากาศทางทีวีเคเบิล
Tyson vs. Paul จะฉายให้ชมแบบเอ็กซ์คลูซีฟบน Netflix เท่านั้น โดยต้องมีการสมัครสมาชิก Netflix เริ่มต้นที่ $6.99 ต่อเดือน เพื่อรับชม
นอกจากนี้ยังมีสถานประกอบการเชิงพาณิชย์ เช่น บาร์และร้านอาหาร ที่สามารถรับชมผ่าน DIRECTV FOR BUSINESS ตามข้อมูลจาก Joe Hand Promotions หากต้องการค้นหาสถานที่ใกล้คุณที่ถ่ายทอดการต่อสู้ครั้งนี้ คลิกที่นี่
การต่อสู้ครั้งนี้จะเป็นการแข่งขันแบบมืออาชีพ มีทั้งหมด 8 ยก โดยแต่ละยกจะใช้เวลาเพียง 2 นาที ซึ่งสั้นกว่าปกติที่ใช้เวลา 3 นาที
นอกจากนี้ นักมวยจะใช้ถุงมือหนัก 14 ออนซ์ ซึ่งหนักกว่าถุงมือปกติ