ทอมมี่ สมิธ อดีตฟูลแบ็คของสโต๊ค ซิตี้ ยังคงเชื่อมั่นว่าสโมสรจะสามารถกลับมาท้าชิงตำแหน่งเลื่อนชั้นได้ในอนาคต แม้ว่าตลอดสามปีที่เขาอยู่กับทีมจะไม่ได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจ
สมิธ วัย 32 ปี ย้ายมาร่วมทีมสโต๊ค ซิตี้ จากฮัดเดอร์สฟิลด์ ทาวน์ ในปี 2019 เพื่อเล่นภายใต้การคุมทีมของนาธาน โจนส์ แต่ทั้งสมิธและทีมต่างไม่สามารถทำผลงานได้ดีทั้งในยุคของโจนส์หรือไมเคิล โอนีล ผู้จัดการทีมคนถัดมา เขาออกจากทีมในปี 2022 และย้ายไปร่วมทีมมิดเดิลสโบรห์
สมิธกล่าวในพอดแคสต์ 72+ ของ BBC ว่าเป็นเรื่องน่าเสียดายที่การเซ็นสัญญาครั้งใหญ่หลายครั้งของสโต๊ค ซิตี้ หลังจากตกชั้นจากพรีเมียร์ลีกในปี 2018 ไม่ได้สร้างผลกระทบที่ดี
นับตั้งแต่ตกชั้น สโต๊ค ซิตี้ ได้จบฤดูกาลระหว่างอันดับที่ 14 ถึง 17 ในทุกซีซั่น พวกเขาแพ้ถึง 110 นัด และชนะเพียง 4 นัดในเอฟเอคัพ
สมิธกล่าวว่า “สิ่งหนึ่งที่ไม่สามารถปฏิเสธได้คือความภักดีและความมุ่งมั่นของประธานสโมสร เขาได้ลงทุนอย่างต่อเนื่องเพราะเขาอยากเห็นสโมสรทำผลงานได้ดี”
สมิธลงเล่นให้กับสโต๊ค ซิตี้ 106 นัดและยิงได้ 3 ประตูในช่วงสามปีที่เขาอยู่กับทีม เขาเสริมว่า “พวกเขาพยายามหาสูตรสำเร็จ แต่ไม่ว่าจะทำอย่างไร มันก็ไม่เคยคลิกจริงๆ”
“ผมยังเชื่อว่าในที่สุดสโต๊คจะหาทางกลับมาและท้าชิงตำแหน่งเลื่อนชั้นได้ มันเป็นสโมสรที่ยอดเยี่ยม แต่ช่วงเวลาที่ผมอยู่ พวกเราได้อันดับที่ 15, 14, และ 14 ซึ่งถือว่าไม่ใกล้เคียงกับความคาดหวังของสโมสรเลย”
นาร์ซิส เปลัค เพิ่งเข้ามาคุมทีมในเดือนกันยายน และตอนนี้สโต๊คอยู่ในอันดับที่ 13 ในลีกแชมเปี้ยนชิพ
“ตอนนี้พวกเขากำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านอีกครั้ง พวกเขามีผู้จัดการทีมคนใหม่และใช้วิธีการเซ็นสัญญานักเตะจากต่างประเทศ ซึ่งไม่ใช่แนวทางที่สโต๊คเคยทำมาก่อน” สมิธกล่าวเสริม
“พวกเขากำลังพยายามหาตัวตนว่าพวกเขาคือใคร และเป็นแบบไหน หลังจากหลายปีที่พวกเขาเคยเป็นทีมที่เหนียวแน่นและยากที่จะเอาชนะ”
