ลุยส์วิลล์คว้าชัยชนะครั้งใหญ่ในรอบหลายปี เมื่อวันพุธที่ผ่านมา โดยชนะอินเดียนา อันดับ 14 ด้วยคะแนน 89-61 ในรอบก่อนรองชนะเลิศของศึก Battle 4 Atlantis ที่เกาะพาราไดซ์ บาฮามาส ชัคกี้ เฮปเบิร์น การ์ดตัวเก่งของทีมซึ่งย้ายมาจากวิสคอนซิน ทำสถิติ “ดับเบิล-ดับเบิล” ครั้งแรกในอาชีพด้วยการทำ 16 แต้ม ยิง 7 จาก 10 ครั้งสำเร็จ พร้อมทำสถิติสูงสุดในอาชีพทั้ง 10 แอสซิสต์ และ 7 สตีล เฮปเบิร์นเป็นหนึ่งในผู้เล่นสี่คนของลุยส์วิลล์ที่ทำคะแนนได้ถึงสองหลักในเกมนี้
แม้จะมีผู้เล่นตัวเล็กกว่า แต่ลุยส์วิลล์กลับครองเกมเหนืออินเดียนาได้อย่างสมบูรณ์แบบ พวกเขาทำให้ฮูเซียร์ยิงได้เพียง 31 เปอร์เซ็นต์ในครึ่งแรก รวมถึงการยิงลูกเลย์อัพเพียง 2 จาก 10 ครั้ง ขณะเดียวกัน ลุยส์วิลล์ยิงสามแต้มได้แม่นยำถึง 41.2 เปอร์เซ็นต์ ทำให้พวกเขานำห่างถึงสามครั้งในครึ่งแรกด้วยคะแนนต่างกัน 10 แต้ม
เข้าสู่ครึ่งหลัง ลุยส์วิลล์เริ่มต้นอย่างร้อนแรงด้วยการทำคะแนนรวดเดียว 11 แต้ม ทำให้คะแนนขึ้นนำเป็น 48-31 ภายในสามนาที และยังคงรักษาความดุดันไว้ตลอดเกม คะแนนนำห่างไปถึง 78-40 เหลือเวลาอีกเพียง 7:08 นาทีในเกม โดยลุยส์วิลล์ยิงประตูครึ่งหลังได้แม่นยำถึง 66.7 เปอร์เซ็นต์ และเน้นโจมตีในพื้นที่ใต้แป้นแทนการยิงสามแต้ม
ชัยชนะครั้งนี้ถือเป็นการเอาชนะทีมอันดับสูงครั้งแรกของลุยส์วิลล์ นับตั้งแต่เอาชนะเวอร์จิเนีย เทค อันดับ 19 เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2021 ก่อนหน้านั้น พวกเขาแพ้ทีมอันดับสูงมาถึง 16 เกมรวด และยังเป็นชัยชนะนอกบ้านต่อทีมอันดับสูงครั้งแรกนับตั้งแต่เอาชนะอันดับ 3 ดุ๊ก เมื่อวันที่ 18 มกราคม 2020 ด้วย
สำหรับโค้ชใหม่ แพต เคลซีย์ การคว้าชัยครั้งนี้นับเป็นชัยชนะที่สี่จากห้าเกมแรกของเขากับลุยส์วิลล์ ซึ่งเท่ากับจำนวนชัยชนะทั้งหมดในฤดูกาลก่อนหน้าภายใต้โค้ชเคนนี เพย์น (4-28) เกมนี้ โนอาห์ วอเตอร์แมน ก็โชว์ฟอร์มดีเช่นกัน ทำคะแนนได้ 16 แต้มจากการยิงสามแต้มลง 4 จาก 8 ครั้ง เคซาน ไพรเออร์ ทำเพิ่มอีก 14 แต้มและคว้ารีบาวด์ได้ 7 ครั้ง ส่วนเรย์เน สมิธ ทำไป 12 แต้ม
ด้านอินเดียนา มาลิก เรโน เป็นผู้นำทำคะแนนด้วย 21 แต้ม แต่ผู้เล่นตัวหลักสองคนของทีมกลับเล่นไม่ออก แมคเคนซี เอ็มกบาโก ทำได้เพียง 8 แต้มจากการยิงลงแค่ 2 จาก 7 ครั้ง ส่วนไมลส์ ไรซ์ ยิงได้เพียงครั้งเดียวจากทั้งหมด 11 ครั้ง จบเกมด้วยคะแนนเพียง 3 แต้ม