โทเค็นสินทรัพย์ในโลกจริง (Real-World Assets: RWAs) กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในวงการการเงินแบบกระจายศูนย์ (Decentralized Finance: DeFi) โดยในเดือนพฤศจิกายน 2024 มีมูลค่ารวมที่ถูกล็อก (Total Value Locked: TVL) สูงถึง $6.452 พันล้าน ตามข้อมูลจาก DefiLlama นอกจากนี้ มูลค่าตลาดรวมของระบบนิเวศนี้ยังแตะที่ $40.90 พันล้าน ตามรายงานของ CoinMarketCap ในช่วงเวลาเดียวกัน
นักลงทุนหลายคนกำลังให้ความสนใจใน RWAs และมองหาโปรเจกต์ใหม่ที่น่าสนใจในตลาดนี้สำหรับไตรมาสที่ 4 ของปี 2024 และต่อเนื่องไปถึงปี 2025 ด้านล่างนี้คือ 10 โปรเจกต์เด่นที่น่าจับตามองในตลาด RWAs ซึ่งได้รับการแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนในคริปโต
**Apraemio ($APRA):**
Apraemio เป็นบริษัทสินทรัพย์ดิจิทัลที่เปลี่ยนแนวคิดของโทเค็นที่มีทองคำหนุนหลัง โดยแตกต่างจากโทเค็นแบบเดิมอย่าง Tether Gold หรือ Pax Gold ที่ผูกกับราคาทองคำในตลาด Apraemio เชื่อมโยงมูลค่าโทเค็น $APRA เข้ากับแหล่งทองคำสำคัญในประเทศมาลี แอฟริกา ซึ่งยังคงขยายกำลังการผลิตและสำรองทองคำอย่างต่อเนื่อง ความพิเศษนี้เกิดขึ้นได้ผ่านความร่วมมือกับ GGS Mali บริษัทเหมืองแร่ที่มีสิทธิ์ดำเนินการเหมืองทองคำในพื้นที่นี้เป็นเวลา 30 ปี Apraemio ได้รับสิทธิ์โดยตรงในการถือครองทองคำ 50% ของผลผลิตทั้งหมด ซึ่งช่วยเพิ่มมูลค่าของทองคำที่หนุนหลังโทเค็นในระยะยาว
ผู้ถือ $APRA ยังสามารถใช้โทเค็นแลกเปลี่ยนเป็นทองคำจริงผ่านโปรแกรม Gold Redemption Program ซึ่งเป็นสะพานเชื่อมระหว่างสินทรัพย์ดิจิทัลกับโลกแห่งความเป็นจริง โทเค็นนี้สามารถซื้อได้บนเว็บไซต์ Apraemio.com หรือ BitMart โดยเริ่มต้นซื้อขายตั้งแต่วันที่ 25 พฤศจิกายน
**MANTRA Chain:**
MANTRA Chain เป็นแพลตฟอร์มบล็อกเชนขั้นสูงที่เชื่อมโยงระบบธนาคารแบบดั้งเดิมกับระบบกระจายศูนย์ ช่วยให้นักพัฒนาสร้างผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินที่ปฏิวัติวงการ ด้วยชุดผลิตภัณฑ์ RWA ที่ทำให้การนำเข้าสู่ระบบง่ายขึ้นและเป็นไปตามข้อกำหนดทางกฎหมาย MANTRA Chain Mainnet ได้เปิดตัวสำเร็จ ซึ่งช่วยให้นักพัฒนาและองค์กรสามารถใช้เครือข่ายเพื่อสร้างสรรค์นวัตกรรมทางการเงิน
**MAIV:**
MAIV คือแพลตฟอร์มที่เปิดโอกาสให้นักลงทุนทั่วไปเข้าถึงตลาดทุนระดับสถาบัน โดยผสมผสานระบบ DeFi และ TradFi เข้าด้วยกัน MAIV สนับสนุนนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ด้วยการให้ทุนสำหรับซื้อที่ดิน โดยมีการค้ำประกันผ่านหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าจริง ทีมงาน MAIV มีประสบการณ์มากกว่า 30 ปี และได้มีส่วนร่วมในโครงการมูลค่ารวมกว่า $5 พันล้าน
**Pendle:**
Pendle เป็นโปรโตคอลในโลก DeFi ที่เน้นเรื่องการแยกและซื้อขายรายได้ในอนาคตของสินทรัพย์ Pendle อนุญาตให้ผู้ใช้งานแปลงรายได้ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตให้เป็นโทเค็น ทำให้สามารถขายรายได้ล่วงหน้าเพื่อสภาพคล่องทันที
**USYC (US Yield Coin):**
USYC เป็นโทเค็น ERC-20 ที่มีความเสี่ยงต่ำ โดยอิงกับกองทุน Hashnote International Short Duration Yield Fund ซึ่งลงทุนในหลักทรัพย์ที่รัฐบาลสหรัฐฯ รับประกัน มันมีความปลอดภัย โปร่งใส และสภาพคล่องสูง
**Creditcoin:**
Creditcoin เป็นเครือข่ายบล็อกเชนที่สร้างตลาดสินเชื่อแบบกระจายศูนย์ โดยช่วยให้ผู้ใช้งานบันทึกธุรกรรมสินเชื่อบนบล็อกเชนอย่างโปร่งใส Creditcoin ยังช่วยแก้ปัญหาการขาดเครดิตในชุมชนที่ไม่มีบัญชีธนาคาร
**TrueFi:**
TrueFi เป็นแพลตฟอร์ม DeFi ที่มอบบริการกู้ยืมเงินโดยไม่ต้องมีหลักประกัน ซึ่งแตกต่างจากแพลตฟอร์มทั่วไป TrueFi เสนออัตราดอกเบี้ยที่แข่งขันได้และให้บริการผ่านโทเค็น TRU
**Quant (QNT):**
Quant เป็นระบบปฏิบัติการบล็อกเชนที่ช่วยเชื่อมโยงเครือข่ายบล็อกเชนต่าง ๆ เข้าด้วยกัน โดยสนับสนุนการสร้างแอปพลิเคชันแบบหลายเครือข่าย
**Ondo Finance:**
Ondo Finance เปิดโอกาสให้นักลงทุนสามารถแปลงสินทรัพย์ในโลกจริง เช่น อสังหาริมทรัพย์หรือพันธบัตรรัฐบาล ให้กลายเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลผ่านเทคโนโลยีบล็อกเชน
**Propy (PRO):**
Propy ใช้บล็อกเชนในการเปลี่ยนแปลงวงการอสังหาริมทรัพย์ โดยทำให้ธุรกรรมอสังหาริมทรัพย์ปลอดภัย โปร่งใส และรวดเร็วยิ่งขึ้น โทเค็น PRO ยังช่วยให้การซื้อขายระหว่างประเทศเป็นไปอย่างราบรื่น
**OriginTrail:**
OriginTrail เป็นเครือข่ายบล็อกเชนที่ช่วยจัดการข้อมูลในซัพพลายเชนและยังใช้ในการตรวจสอบความถูกต้องของสินทรัพย์ในโลกจริง โทเค็น TRAC ใช้สำหรับการดำเนินงานภายในระบบ
RWAs กำลังสร้างกระแสใหม่ในการลงทุน ไม่ว่าจะเป็นการเชื่อมโยงสินทรัพย์จริงกับดิจิทัล การเปิดโอกาสใหม่ ๆ ให้นักลงทุน หรือแม้กระทั่งการเพิ่มความโปร่งใสในตลาด มันคืออนาคตของโลกการเงิน!