ในช่วงต้นยุค 20’s มีนักมวยสำรองโอลิมปิกชื่อแชนนอนที่มีเรื่องเล่ามากมาย แต่วันนี้เราจะมาเล่าสามเรื่องเด่นของเขาให้ฟังกัน
แชนนอนมีผู้ฝึกสอนมืออาชีพชื่อแจ็ค แบล็กเบิร์น ซึ่งเป็นผู้ฝึกสอนของโจ “บราวน์ บอมเบอร์” หลุยส์ แต่แชนนอนได้ร่วมงานกับเขาก่อนใคร ในครั้งหนึ่งบนรถไฟไปบัลติมอร์ที่แชนนอนต้องชกกับนักมวยที่เรียกว่า “บิลลี่ โก๊ต” แบล็กเบิร์นดึงขวดเล็กๆ ออกมาและให้แชนนอนได้สูดกลิ่นเพียงครั้งเดียวจนทำให้สายตาของเขาพร่ามัว แบล็กเบิร์นวางแผนจะใส่ของเหลวจากขวดนี้ไว้ใต้คางของแชนนอน เพื่อให้เมื่อคู่ต่อสู้เอาหัวมาชนของเหลวจะไหลลงไปในตาของคู่ต่อสู้ และผลลัพธ์คือแชนนอนชนะโดยน็อคทางเทคนิค เพราะคู่ต่อสู้ไม่สามารถสู้ต่อได้ในยกถัดไป
อีกครั้งหนึ่ง แชนนอนต้องชกกับคู่ต่อสู้ชื่อเอ็ดดี้ ฟิชเชอร์ (ไม่ใช่นักร้องชื่อดัง) ในช่วงที่แชนนอนยังเป็นนักมวยสมัครเล่น เขาเคยแข่งขันให้กับสโมสรคาทอลิกชื่อแชนนาแฮน แต่เมื่อเขาเปลี่ยนเป็นนักมวยอาชีพและกลับไปเอาถ้วยรางวัลคืน บาทหลวงที่รับผิดชอบปฏิเสธที่จะคืนถ้วยให้ เหตุผลอาจเป็นเพราะแชนนอนเป็นลูเธอรัน (โปรเตสแตนต์) และในคืนที่แชนนอนต้องขึ้นชกกับฟิชเชอร์ เขาได้รับข่าวว่าบาทหลวงคนเดิมได้เดิมพันให้แชนนอนแพ้
การชกครั้งนั้นจัดขึ้นที่คัมเบรียในฟิลาเดลเฟีย ที่รู้จักกันในชื่อ “หลุมเลือด” เพราะมีการแข่งขันที่ดุเดือดมากมายเกิดขึ้นที่นี่ นักมวยต้องเดินลงบันไดเพื่อเข้าสู่เวที แชนนอนขึ้นเวทีและถูกน็อคลงไปในยกแรก ภรรยาของเขาที่อยู่ข้างเวทีตะโกนว่า “ลุกขึ้นมาเถอะ คุณนอนหลับมาตั้งแต่บ่ายแล้ว!” แชนนอนลุกขึ้นมาและในที่สุดก็เอาชนะฟิชเชอร์ได้ หลังจากการต่อสู้ เขาเดินกลับขึ้นบันไดและพบบาทหลวงคนนั้นนั่งอยู่ด้วยศีรษะก้มต่ำ แชนนอนไปกระซิบข้างหูว่า “ขอบคุณสำหรับคำอธิษฐานครับคุณพ่อ” ต่อมาแชนนอนไปหาฟิชเชอร์ที่เปิดร้านอาหารในเจอร์ซีย์เพื่อเสนอสัญญาว่าจะเป็นผู้ฝึกสอนและจัดการให้ฟิชเชอร์หลังจากที่เขาเกษียณ แต่ฟิชเชอร์ตอบว่า “ถ้าผมยังเอาชนะคนอย่างคุณไม่ได้ ผมก็ไม่ควรอยู่ในวงการมวย” และนั่นเป็นครั้งสุดท้ายที่ทั้งสองพบกัน
นอกจากเป็นนักมวยแล้ว แชนนอนยังเป็นช่างเขียนป้าย ซึ่งเขาใช้รายได้จากงานนี้จ่ายค่าธรรมเนียมสมาชิกโรงยิมของฟิลาเดลเฟีย แจ็ค โอ’ไบรอัน อดีตแชมป์รุ่นไลท์เฮฟวี่เวท โรงยิมของโอ’ไบรอันมีเวทีสองเวที วันหนึ่งมีนักมวยคนหนึ่งกำลังซ้อมเงาอยู่บนเวทีแรก ส่วนอีกเวทีมีนักมวยจากนิวอิงแลนด์ที่พูดจาหยาบคายและเอาชนะคู่ซ้อมทุกคนที่ขึ้นมา เขาถามโอ’ไบรอันว่า “นี่คือทั้งหมดที่คุณมีเหรอ?” โอ’ไบรอันเริ่มถอดเสื้อสูทเพื่อขึ้นเวทีเอง แต่แชนนอนอาสาขึ้นเวทีแทน แม้ว่าเขาจะเป็นนักมวยรุ่นไลท์เวทและคู่ต่อสู้เป็นรุ่นมิดเดิลเวท แชนนอนใช้ความเร็ววิ่งวนจนคู่ต่อสู้จับเขาไม่ได้ ก่อนจะลงจากเวทีไป
จากนั้น นักมวยอีกคนบนเวทีแรกถามนักมวยหยาบคายว่า “ต้องการซ้อมหน่อยไหม?” คู่ต่อสู้ตอบว่า “ใช่ ฉันต้องการซ้อม” นักมวยอีกคนเข้าสู่เวทีและเริ่มจัดการนักมวยหยาบคายจนถึงขั้นทำให้หูของเขาแตก (ไม่มีหมวกป้องกัน) และทำให้เขาต้องถอนตัวจากการแข่งขันในอีกไม่กี่วันต่อมา เมื่อเขาลงจากเวที แชนนอนเดินตามไปที่ห้องแต่งตัวและกล่าวว่า “ขอบคุณมากที่ช่วยฉัน” นักมวยอีกคนตอบว่า “ฉันไม่ได้ทำเพื่อเธอ เด็กหนุ่ม คนแบบนั้นไม่ควรอยู่ในวงการมวย” จากนั้นเขายื่นมือออกมาและกล่าวว่า “ฉันชื่อแฮร์รี เกร็บ” ใช่แล้ว นักมวยชื่อดังที่เคยเป็นแชมป์โลกสองรุ่น และยังเป็นคนเดียวที่เคยเอาชนะแชมป์รุ่นเฮฟวี่เวท ยีน ทันนี่ นั่นเอง!
