เรอัล มาดริด (มูลค่าทีม: 1.12 พันล้านยูโร) คว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีกเป็นครั้งที่ 15 และทีมชาติสเปนคว้าแชมป์ยุโรปไปครอง ในขณะเดียวกัน ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น (648 ล้านยูโร) ทำผลงานในลีกเยอรมันได้อย่างยอดเยี่ยม จนสามารถโค่นบาเยิร์น มิวนิค (872 ล้านยูโร) ลงจากบัลลังก์แชมป์บุนเดสลีกาได้ เราได้สรุปฤดูกาลที่ผ่านมาในโอกาสครบรอบ 20 ปีของการประเมินมูลค่าตลาดบน Transfermarkt
ในการจัดทีมที่มีมูลค่าสูงสุด เออร์ลิง ฮาลันด์ ได้เข้าร่วมกับเพื่อนร่วมทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ (1.32 พันล้านยูโร) อีกสามคน ได้แก่ ร็อดรี้ ผู้ชนะทั้งแชมป์ยุโรปและรางวัลบัลลงดอร์, ยอสโก กวาร์ดิโอล กองหลังที่แพงที่สุดในประวัติศาสตร์หลังถูกซื้อมาจากไลป์ซิกในราคา 90 ล้านยูโร และ รูเบน ดิอาส ขณะที่เรอัล มาดริดมีผู้เล่นสองคนคือ วินิซิอุส จูเนียร์ และ จู๊ด เบลลิงแฮม เช่นเดียวกับอาร์เซน่อล (1.16 พันล้านยูโร) ที่มี บูกาโย่ ซาก้า และ วิลเลียม ซาลิบา รวมอยู่ด้วย ส่วน ดิโอโก้ คอสต้า ผู้รักษาประตูทีมชาติโปรตุเกสจากปอร์โต้ (310 ล้านยูโร) เป็นนักเตะเพียงคนเดียวในทีมที่ไม่ได้เล่นในหนึ่งในห้าลีกชั้นนำของยุโรป
เชลซีและเปแอสเชทุ่มเงินกว่า 400 ล้านยูโร – ซาอุดิอาระเบียซื้อนักเตะดาวดัง
สองสโมสรที่ใช้เงินซื้อนักเตะมากที่สุดคือ เชลซี (946 ล้านยูโร) ที่ใช้เงินไป 464 ล้านยูโร ในการเสริมทัพ และ เปแอสเช ที่ใช้ไป 455 ล้านยูโร ส่วนอันดับสามคือ อัล-ฮิลาล หนึ่งในทีมจากซาอุดิอาระเบีย ที่ใช้เงิน 376 ล้านยูโร รวมถึงการซื้อนักเตะอย่าง เนย์มาร์ ด้วยราคา 90 ล้านยูโร ซึ่งทั้งหมดสโมสรจากซาอุดิ โปรลีก ใช้เงินซื้อนักเตะใหม่ไปถึง 973 ล้านยูโร มากกว่าลีกบุนเดสลีกาและลาลีกาด้วยซ้ำ ด้าน ดีแคลน ไรซ์ และ โมเสส ไกเซโด้ ย้ายไปร่วมทีมอาร์เซน่อลและเชลซีตามลำดับ ด้วยค่าตัว 116 ล้านยูโร กลายเป็นการย้ายทีมที่แพงที่สุดในฤดูกาล
