เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม บิตคอยน์ได้ทะลุระดับจิตวิทยาสำคัญที่ $100,000 เป็นครั้งแรก โดยขึ้นไปแตะระดับสูงสุดที่ $103,446 ซึ่งถือเป็นการพุ่งทะยานครั้งใหญ่สำหรับสินทรัพย์ดิจิทัลนี้ หลังจากที่เคยลดลงไปถึง $60,000 ในเดือนตุลาคม และเพิ่มขึ้นกว่า 130% ในปีนี้ แม้ว่าราคาจะลดลงเล็กน้อยในวันศุกร์ โดยอยู่ที่ $101,049 และมูลค่าตลาดรวมที่ $1.99 ล้านล้าน แต่ผู้ถือครองบิตคอยน์มายาวนานมองว่านี่คือการยืนยันถึงความมั่นคงของสินทรัพย์ที่เคยถูกกล่าวหาว่า “ตาย” ในสื่อมากกว่า 477 ครั้ง
ในขณะเดียวกัน Sam Bankman-Fried อดีตมหาเศรษฐีคริปโตที่ถูกตัดสินจำคุก 25 ปีในข้อหาฉ้อโกง กำลังใช้ชีวิตในเรือนจำ Metropolitan Detention Center (MDC) ที่นิวยอร์ก และเริ่มเขียนบันทึกชีวิตของเขา Forbes ได้เห็นเนื้อหาบางส่วนของหนังสือที่เขากำลังเขียน ซึ่งมีลักษณะการเล่าเรื่องเหมือนนักมนุษยวิทยาที่ศึกษาวัฒนธรรมต่างแดน Fried เล่าว่า “นักโทษส่วนใหญ่กลายเป็นคนที่สนใจแต่ตัวเอง พวกเขาพร้อมจะต่อสู้เพื่อกล้วยเพียงลูกเดียว และยอมแลกทุกสิ่งเพื่อเสพยาอีกครั้ง” เขายังพูดถึงเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ในชีวิต เช่น การพยายามหาเบาะรองนอน “คืนนี้ผมเสียเบาะไป และต้องใช้ผ้าขนหนูกับชุดนักโทษมาหนุนแทน ซึ่งมันไม่ค่อยได้ผลและทำให้คอของผมเจ็บ”
สำหรับอุตสาหกรรมคริปโตนั้น แม้จะเผชิญกับกฎระเบียบที่เข้มงวดมาตลอด แต่สถานการณ์กำลังเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด โดย Donald Trump แต่งตั้ง Paul Atkins อดีตคณะกรรมาธิการของ SEC ให้เป็นประธานคนใหม่ของหน่วยงานนี้ ซึ่ง Atkins ถือเป็นมิตรกับวงการคริปโต และเคยทำงานร่วมกับกลุ่มล็อบบี้เพื่อร่างแนวทางการจัดประเภทโทเค็น การตัดสินใจแรกของเขาคือการดำเนินคดีต่อกับบริษัทใหญ่ ๆ อย่าง Coinbase, Binance และ Kraken หรือไม่ รวมถึงความเป็นไปได้ในการร่างกฎเกณฑ์ที่ชัดเจนขึ้น เพื่อช่วยให้อุตสาหกรรมคริปโตเดินหน้าได้อย่างมั่นคง
นอกจากนี้ Trump ยังแต่งตั้ง David Sacks นักลงทุนและสมาชิกกลุ่ม “PayPal Mafia” ให้เป็นผู้นำด้านนโยบายปัญญาประดิษฐ์และคริปโต โดย Trump กล่าวว่าบทบาทของ Sacks คือการทำให้อเมริกาเป็นผู้นำระดับโลกในสองด้านสำคัญนี้
ในขณะที่ Trump ยังไม่ได้แสดงความสนใจต่อ Ripple Labs และโทเค็น XRP โดยตรง แต่ XRP กลับได้รับผลประโยชน์จากการเลือกตั้งครั้งนี้อย่างมาก หลังจากที่ราคาแทบไม่เปลี่ยนแปลงมาตลอดปี แต่เพิ่มขึ้นถึง 300% ในเวลาอันสั้น ทำให้มูลค่าตลาดสูงถึง $133 พันล้าน และกลายเป็นโทเค็นใหญ่อันดับสามรองจากบิตคอยน์และอีเธอเรียม
ความสำเร็จนี้ยังส่งผลให้ Chris Larsen ผู้ร่วมก่อตั้ง Ripple Labs มีความมั่งคั่งเพิ่มขึ้นจาก $3.3 พันล้าน เป็น $8.1 พันล้านในเวลาไม่นาน
#### อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
– นักลงทุน ETF แห่ลงทุนในอีเธอเรียม
– หน่วยงานกำกับดูแลสหรัฐฯ สั่งธนาคารหลีกเลี่ยงคริปโต
– บิตคอยน์พุ่งแรง ขณะที่กรมสรรพากรจับตามองอย่างใกล้ชิด
