ภาพยนตร์เรื่อง Wicked และ Gladiator II อาจไม่ได้สร้างปรากฏการณ์ยิ่งใหญ่เหมือน “Barbenheimer” แต่ก็ทำได้ใกล้เคียงมากทีเดียว ด้วยรายได้รวมสุดสัปดาห์ที่ทะลุ 205 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดย Wicked กวาดรายได้ไป 114 ล้านดอลลาร์ในสหรัฐฯ และ 165 ล้านดอลลาร์ทั่วโลก ขณะที่ Gladiator II ทำเงินได้ 55.5 ล้านดอลลาร์
ตัวเลขนี้เทียบได้กับปี 2019 ที่ Frozen II ดันรายได้บ็อกซ์ออฟฟิศไปถึง 204.9 ล้านดอลลาร์ในสุดสัปดาห์นั้น และยังถือเป็นสุดสัปดาห์ที่ดีที่สุดนับตั้งแต่ปี 2013 ซึ่ง The Hunger Games: Catching Fire ทำให้รายได้รวมของทุกภาพยนตร์แตะ 226.5 ล้านดอลลาร์ในช่วงเวลาเดียวกัน
ความสำเร็จนี้แสดงให้เห็นว่าการแข่งขันในบ็อกซ์ออฟฟิศไม่ได้แปลว่าจะลดรายได้ลงเสมอไป ตรงกันข้าม เงินยังคงหลั่งไหลเข้าสู่โรงภาพยนตร์อย่างต่อเนื่อง และในวันอังคารนี้ Moana 2 ก็เตรียมลงจอ ซึ่งน่าจะช่วยเสริมรายได้ให้ตลาดภาพยนตร์แข็งแกร่งยิ่งขึ้น
“ในนามของผู้ที่ดำเนินกิจการโรงภาพยนตร์ทั่วโลก ขอแสดงความยินดีกับพันธมิตรจากสตูดิโอและชุมชนผู้สร้างสรรค์ ที่ทำให้เดือนพฤศจิกายนนี้เป็นหนึ่งในช่วงเวลาที่ประสบความสำเร็จที่สุดสำหรับบ็อกซ์ออฟฟิศ” Michael O’Leary ประธานและซีอีโอของสมาคมเจ้าของโรงภาพยนตร์แห่งชาติ กล่าว “อีกครั้งที่พิสูจน์ได้ว่า เมื่อการแข่งขันที่ดีมาพร้อมกับประสบการณ์พรีเมียม ตลาดจะเติบโตและผู้ชมจะได้รับประโยชน์ ความสำเร็จของภาพยนตร์อย่าง Wicked และ Gladiator II รวมถึงยอดจองล่วงหน้าของ Moana 2 ที่แข็งแกร่ง แสดงให้เห็นว่าผู้ชมทุกเพศทุกวัยยังคงรักการชมภาพยนตร์ในโรง ไม่มีอะไรเทียบเท่ากับประสบการณ์ทางภาพยนตร์ และผู้ชมก็กำลังหลงใหลในสิ่งนี้ นี่คือแรงกระตุ้นสำคัญสำหรับบ็อกซ์ออฟฟิศที่จะเดินหน้าสู่เดือนธันวาคมและปีใหม่อย่างแข็งแกร่ง”
การเปิดตัวของ Wicked ถือเป็นการเปิดตัวที่ใหญ่เป็นอันดับสามของปีนี้ รองจาก Deadpool & Wolverine และ Inside Out 2 ตอนนี้ก็ต้องมาดูกันว่าภาพยนตร์เหล่านี้จะรักษาความนิยมไว้ได้มากน้อยแค่ไหนในช่วงเทศกาลวันหยุด
