ปัญจาบ เอฟซี กำลังอยู่ในช่วงฤดูกาลที่น่าประทับใจในศึกอินเดียน ซูเปอร์ ลีก (ISL) และเตรียมพร้อมสำหรับการปะทะครั้งแรกกับ อีสต์ เบงกอล เอฟซี ในแมตช์วีคที่ 13 ทีม “แดง-เหลือง” จะเปิดบ้านต้อนรับ ปัญจาบ เอฟซี ที่สนามกีฬา วิเวกานันดา ยูบา ภาราติ ครีรันกัน ในวันที่ 17 ธันวาคม ซึ่งแน่นอนว่าจะเป็นการแข่งขันที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น เพราะทั้งสองทีมต่างต้องการเก็บแต้มสำคัญในแมตช์นี้
ปัจจุบัน ปัญจาบ เอฟซี รั้งอันดับที่ 5 ของตารางคะแนน โดยมี 18 คะแนนจาก 10 นัดที่ผ่านมา ทีมแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งในเกมรับ โดยเป็นทีมที่ปล่อยให้ฝ่ายตรงข้ามมีโอกาสสัมผัสบอลในกรอบเขตโทษน้อยที่สุด “เรามีแผนการเล่นเกมรับเฉพาะตัว และบางครั้งเราปรับแผนให้เหมาะสมกับจุดแข็งและจุดอ่อนของคู่ต่อสู้ ซึ่งเราจะใช้วิธีนี้อีกครั้งในเกมกับ อีสต์ เบงกอล เพื่อรับมือกับแผนการโจมตีใหม่ที่โค้ชของพวกเขานำมาใช้” โค้ช ปัญจาบ เอฟซี พานาจิโอติส ดิลเบริส กล่าว
แม้ว่าฤดูกาลนี้ ปัญจาบ เอฟซี จะทำผลงานได้ดี แต่ฟอร์มในช่วงหลังกลับไม่คงที่ โดยพวกเขาแพ้ถึง 3 จาก 5 เกมล่าสุด รวมถึงความพ่ายแพ้ 1-2 ต่อ จามเชดปูร์ เอฟซี ในขณะเดียวกัน อีสต์ เบงกอล ก็เพิ่งพ่ายแพ้ต่อ โอริสสา เอฟซี 1-2 ในเกมล่าสุดเช่นกัน
เมื่อถูกถามถึงผลกระทบทางจิตวิทยาที่อาจเกิดขึ้นจากผลการแข่งขันที่ผ่านมา โค้ช ดิลเบริส ชี้แจงว่า “ทุกเกมคือแมตช์ใหม่ที่มีความต้องการแตกต่างกัน และปรัชญาของเราคือการนำประสบการณ์และความรู้สึกจากเกมที่ผ่านมา มาใช้เป็นข้อได้เปรียบและแรงผลักดันสำหรับเกมถัดไป”
“เรามีความโกรธจากความพ่ายแพ้ที่ผ่านมา และเราต้องเปลี่ยนความโกรธนี้ให้เป็นพลังในสนาม” เขากล่าวเสริม
สำหรับการแข่งขันครั้งนี้ อีสต์ เบงกอล จะได้รับกำลังใจจากแฟนบอลเจ้าบ้านที่คาดว่าจะมีมากถึง 60,000 คน “นี่เป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมสำหรับผมและทีมของผม เพราะมันน่าทึ่งเมื่อคุณได้เล่นในสนามที่เต็มไปด้วยแฟนบอล แม้ว่าพวกเขาจะเชียร์ทีมของตัวเองก็ตาม หลายครั้งที่เราเล่นในสนามแบบนี้ ผู้เล่นของผมมีแรงกระตุ้นและความมุ่งมั่นมากขึ้น” ดิลเบริสกล่าวเพิ่มเติม
เมื่อถูกถามถึงผู้เล่นที่อาจสร้างความแตกต่างในเกมนี้ นอกเหนือจาก ลูก้า มายเซ็น และ เอเซเกล วิดาล โค้ช ดิลเบริส ตอบว่า “ผมไม่ได้เป็นเพียงโค้ชของทีม แต่ยังเหมือนพ่อของผู้เล่นทุกคน ผมไม่มีทางบอกได้ว่าผู้เล่นคนไหนสำคัญกว่าคนอื่น”
“เราคือทีมเดียวกัน เราเดินไปด้วยกันตั้งแต่ผู้เล่นอายุมากที่สุดจนถึงอายุน้อยที่สุด ตั้งแต่ผู้รักษาประตูไปจนถึงกองหน้า และเราพยายามใช้ศักยภาพของผู้เล่นทุกคนให้เต็มที่เสมอ” เขาสรุป