การชกชิงแชมป์เฮฟวี่เวทระหว่าง ไทสัน ฟิวรี่ และ โอเล็กซานเดอร์ อูซีก จบลงด้วยชัยชนะของนักชกชาวยูเครนด้วยคะแนนแบบแยกตัดสิน (Split Decision) ซึ่งสร้างกระแสถกเถียงอย่างมาก เนื่องจากแฟนมวยหลายคนเชื่อว่า “Gypsy King” ควรเป็นฝ่ายชนะ ในการชกที่จัดขึ้นเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ณ Kingdom Arena ในเมืองริยาด ประเทศซาอุดีอาระเบีย
ไฟต์นี้สร้างความตื่นเต้นให้กับผู้ชมจนแทบลุกขึ้นยืนจากเก้าอี้ ความคาดหวังที่เกิดขึ้นก่อนการชกทำให้ทุกคนตั้งตารอคอยรีแมตช์ระหว่างนักชกยุโรปสองคนนี้อย่างใจจดใจจ่อ
“ผมไม่คิดว่า อูซีก จะสามารถจัดการ ฟิวรี่ ได้แบบนั้น อูซีกทำให้ผมเริ่มเชื่อมั่นในฝีมือการชกของเขา ใช่เลย ตอนนี้ผมเชื่อแล้ว ผมคิดว่าเขาจะชนะฟิวรี่อีกครั้ง และจะทำให้สถิติเป็น 2-0 ในฝั่งของเขา” ฮานีย์กล่าว
ดีเจ วลาด ซึ่งเป็นผู้ดำเนินรายการ ได้แสดงความคิดเห็นว่า ฟิวรี่ อาจไม่ได้ดูเหมือนแชมป์โลกเฮฟวี่เวท แต่เขาได้พิสูจน์ตัวเองว่าเป็น “นักสู้ที่ยอดเยี่ยม”
“เขาเป็นนักสู้ มาจากครอบครัวนักสู้ พ่อของเขา (จอห์น ฟิวรี่) ถือเป็นผู้มีมันสมองในวงการมวย ดังนั้นฟิวรี่จะเตรียมตัวพร้อมสำหรับไฟต์นี้แน่นอน แต่ถึงอย่างนั้น ผมก็ยังยืนข้างชัยชนะของอูซีก” ฮานีย์ตอบกลับ
ไฟต์แรกได้สร้างความสนใจอย่างมากในวงการมวย ดังนั้นการพบกันครั้งที่สองระหว่างนักชกจากอังกฤษและยูเครนนี้คาดว่าจะยิ่งใหญ่กว่าเดิม อย่างไรก็ตาม เรื่องเงินกลายเป็นปัญหาสำคัญในการเจรจา
แม้ว่าเหตุการณ์นี้จะประสบความสำเร็จในด้านเชิงพาณิชย์ แต่รายงานระบุว่ารายได้ที่เกิดจากการชกครั้งนี้ยังไม่เพียงพอที่จะครอบคลุมค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่สูงกว่า 120 ล้านดอลลาร์
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ขาดทุนคือการละเมิดลิขสิทธิ์ ผู้ชมกว่า 20 ล้านคนดูไฟต์นี้ผ่านการสตรีมแบบผิดกฎหมาย โดยประมาณ 45% ของผู้ชมมาจากยุโรป และอีก 18% มาจากสหราชอาณาจักร
คาดว่าการสตรีมผิดกฎหมายครั้งนี้ทำให้เกิดความเสียหายทางการเงินมากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์
