Stablecoins และหลักทรัพย์แบบโทเค็นกำลังจะเปลี่ยนแปลงระบบการชำระเงินและการเงินทั่วโลกภายในปี 2025
รายงานล่าสุดจาก VanEck ระบุว่าตลาดคริปโตกำลังเตรียมพร้อมสำหรับรอบขาขึ้นครั้งใหญ่ โดยคาดว่าจะถึงจุดสูงสุดในไตรมาสแรกของปี 2025 ในช่วงนี้ Ethereum (ETH) อาจมีราคาสูงกว่า $6,000 ในขณะที่ Bitcoin (BTC) อาจแตะถึง $180,000 นอกจากนี้ เหรียญคริปโตอื่น ๆ อย่าง Solana (SOL) และ Sui (SUI) ก็มีโอกาสทะยานไปสูงกว่า $500 และ $10 ตามลำดับ
อย่างไรก็ตาม VanEck เตือนว่าหลังจากนั้น Bitcoin อาจลดมูลค่าลงถึง 30% และเหรียญคริปโตอื่น ๆ อาจตกลงถึง 60% ในช่วงกลางปี แต่หลังจากการปรับฐานนี้ ตลาดจะฟื้นตัวในช่วงปลายปี ซึ่งเหรียญหลายตัวจะกลับมาแตะราคาสูงสุดอีกครั้ง
VanEck ชี้ให้เห็นว่าการติดตามอัตราดอกเบี้ยที่สูงต่อเนื่อง — เกิน 10% เป็นเวลานานกว่า 3 เดือน — เป็นตัวชี้วัดสำคัญในการประเมินสถานการณ์ตลาด
การเลือกตั้ง Donald Trump ได้เปลี่ยนแปลงนโยบายคริปโตในสหรัฐฯ อย่างมาก จากการต่อต้านคริปโตไปสู่การสนับสนุน โดยมอง Bitcoin เป็นสินทรัพย์เชิงกลยุทธ์ รัฐบาลของเขายังได้แต่งตั้งผู้บริหารที่สนับสนุนคริปโตในตำแหน่งสำคัญ เช่น รองประธาน JD Vance และประธาน SEC Paul Atkins
โปรเจกต์สำคัญที่กำลังดำเนินการรวมถึงการอนุมัติผลิตภัณฑ์ซื้อขายคริปโตแบบ Spot, การเพิ่มฟังก์ชันการ Staking ให้กับ Ethereum ETP และการยกเลิกกฎ SEC Rule SAB 121
เป้าหมายเหล่านี้คือการผสานสินทรัพย์ดิจิทัลเข้ากับสถาบันการเงินดั้งเดิม VanEck ยังคาดการณ์ว่า รัฐต่าง ๆ เช่น เท็กซัสและฟลอริดา จะเริ่มจัดตั้งทุนสำรอง Bitcoin ในระดับรัฐบาลกลางหรือรัฐภายในปี 2025
ปี 2025 จะเป็นปีแห่งความสำเร็จของหลักทรัพย์แบบโทเค็น โดยมูลค่ารวมอาจเกิน $50 พันล้าน แม้ว่าปัจจุบันมูลค่าประมาณ $12 พันล้านจะอยู่ในเครือข่ายที่ได้รับอนุญาต แต่การเชื่อมโยงระหว่างบล็อกเชนสาธารณะและส่วนตัวจะช่วยผลักดันการนำมาใช้
หลักทรัพย์แบบโทเค็นคือวิธีที่ปฏิวัติการผสมผสานเทคโนโลยีบล็อกเชนกับระบบการเงินดั้งเดิม
สำหรับ Stablecoins คาดว่าปริมาณการชำระเงินรายวันจะเพิ่มขึ้นสามเท่า จาก $100 พันล้านไปถึง $300 พันล้านภายในสิ้นปี 2025 การเติบโตนี้ได้รับแรงผลักดันจากการโอนเงินและการยอมรับในธุรกิจทั่วโลก เน้นบทบาทที่เพิ่มขึ้นของ Stablecoins ในการเชื่อมต่อระบบการเงินดั้งเดิมกับโลกกระจายศูนย์
ในปี 2025 ปัญญาประดิษฐ์ (AI) จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต โดยเอเจนต์ AI จะเป็นผู้ช่วยดิจิทัลอัตโนมัติที่ทำงานแทนผู้ใช้งาน คาดว่าจะมีเอเจนต์ใหม่เพิ่มขึ้นอีก 1 ล้านตัว ซึ่งจะเข้ามามีบทบาทใน DeFi เกม โซเชียลมีเดีย และบริการผู้บริโภค การเติบโตนี้เน้นถึงความสัมพันธ์ที่แนบแน่นระหว่าง AI และบล็อกเชน
ในด้าน DeFi มูลค่ารวมที่ถูกล็อก (TVL) จะเกิน $200 พันล้าน ขณะที่ปริมาณซื้อขายในตลาด DEX จะสูงกว่า $4 ล้านล้าน โทเค็นที่เกี่ยวข้องกับ AI และแอปพลิเคชันที่เข้าถึงผู้ใช้โดยตรงจะช่วยเพิ่มการนำมาใช้และสภาพคล่อง
สำหรับตลาด NFT คาดว่าปริมาณซื้อขายจะฟื้นตัวถึง $30 พันล้านในปี 2025 โดยได้รับแรงบันดาลใจจากโปรเจกต์สร้างสรรค์ เช่น Pudgy Penguins และ Miladys ซึ่งเน้นความสำคัญของการมีส่วนร่วมของชุมชน
DApps ยังมีแนวโน้มที่จะพัฒนาให้ใกล้เคียงกับประสิทธิภาพของเหรียญ Layer-1 โดยได้รับแรงหนุนจากความก้าวหน้าของ AI และเครือข่ายโครงสร้างพื้นฐานทางกายภาพแบบกระจายศูนย์ (DePIN)
Bitcoin Layer-2 คาดว่าจะมีมูลค่ารวมที่ถูกล็อกเกิน 100,000 BTC โดยขยายตัวจากการเติบโต 600% ในปี 2024 ด้าน Ethereum ก็มีการพัฒนาพื้นที่ Blob Space เพื่อรองรับสินทรัพย์แบบโทเค็นและประสิทธิภาพของ Roll-Up ซึ่งคาดว่าจะสร้างรายได้ $1 พันล้านจากค่าธรรมเนียม
VanEck มองว่าช่วงเวลาถึงปี 2025 จะเป็นช่วงที่ตลาดคริปโตเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ตั้งแต่ราคาสูงสุดของ Bitcoin ไปจนถึงการเติบโตของหลักทรัพย์แบบโทเค็น Stablecoins และการผสานกับ AI รายงานนี้สะท้อนภาพของผลกระทบที่เพิ่มขึ้นของบล็อกเชนในหลากหลายอุตสาหกรรม
