ทรัมป์หนุนคริปโต แต่งตั้งผู้เชี่ยวชาญสู่ตำแหน่งสำคัญ

ฝ่ายบริหารของทรัมป์ได้แต่งตั้งผู้สนับสนุนคริปโตหลายคนให้ดำรงตำแหน่งสำคัญในด้านการเงิน

เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา โดนัลด์ ทรัมป์ ได้พบกับ Kris Marszalek ซีอีโอของ Crypto.com ที่ Mar-a-Lago ซึ่งเป็นบ้านพักของเขาในฟลอริดา การพบปะครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อหารือเกี่ยวกับการแต่งตั้งบุคคลที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมคริปโตและการจัดการสำรอง Bitcoin

การประชุมดังกล่าวมุ่งเน้นไปที่ตำแหน่งสำคัญในแผนกการเงิน รัฐสภา และฝ่ายบริหารใหม่ โดยมีเป้าหมายที่จะขับเคลื่อนกฎระเบียบที่ชัดเจนในอุตสาหกรรมคริปโต เพื่อให้สหรัฐฯ เป็นผู้นำระดับโลกด้านสินทรัพย์ดิจิทัลและนวัตกรรม

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ทรัมป์พบปะกับผู้นำในวงการคริปโต ก่อนหน้านี้เขาได้พูดคุยทางโทรศัพท์กับ Brian Armstrong ซีอีโอของ Coinbase เพื่อหารือเกี่ยวกับประเด็นสำคัญในวงการนี้เช่นกัน

ขณะเดียวกัน ทีมงานช่วงเปลี่ยนผ่านของทรัมป์กำลังเตรียมประกาศแต่งตั้งประธานคณะกรรมการกำกับการซื้อขายล่วงหน้า (CFTC) ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ได้รับความสนใจอย่างมาก โดยก่อนหน้านี้ได้มีการเสนอชื่อ Paul Atkins ให้ดำรงตำแหน่งประธาน SEC

แม้ว่าในอดีตทรัมป์จะเคยไม่เชื่อมั่นใน Bitcoin แต่ตอนนี้เขากลับหันมาสนับสนุนคริปโตอย่างเปิดเผย โดยเสนอแนวคิดในการจัดตั้งคณะที่ปรึกษาด้านคริปโตและสำรอง Bitcoin ในเชิงยุทธศาสตร์

นอกจากนี้ ทรัมป์ยังแต่งตั้งบุคคลที่สนับสนุนคริปโตหลายคนเข้ารับตำแหน่งสำคัญ เช่น Howard Lutnick จาก Cantor Fitzgerald LP เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และ Scott Bessent เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รวมถึง David Sacks นักลงทุนร่วมทุน ให้ทำหน้าที่ที่ปรึกษาด้านปัญญาประดิษฐ์และคริปโต

ผู้เชี่ยวชาญหลายคนหวังว่าผู้นำใหม่จะช่วยแก้ไขมาตรการกำกับดูแลที่เข้มงวดซึ่งดำเนินการภายใต้ Gary Gensler ประธาน SEC คนปัจจุบัน

Crypto.com ได้ยื่นฟ้องร้องต่อ SEC หลังได้รับหนังสือแจ้งเตือนจากหน่วยงาน ซึ่งแสดงเจตนาว่าจะดำเนินคดีทางกฎหมายต่อบริษัท โดย Crypto.com ระบุว่า SEC ใช้อำนาจเกินขอบเขตทางกฎหมายในการกำกับดูแลสินทรัพย์คริปโตเกือบทั้งหมด และยังกล่าวอีกว่าการจัดประเภทธุรกรรมคริปโตส่วนใหญ่ว่าเป็นหลักทรัพย์นั้นไม่มีพื้นฐานทางกฎหมายที่ชัดเจน ยกเว้น Bitcoin และ Ethereum ที่ไม่ถูกจัดอยู่ในประเภทดังกล่าว

นอกจากนี้ Crypto.com ยังได้ยื่นคำร้องต่อทั้ง SEC และ CFTC เพื่อขอความชัดเจนว่าองค์กรใดควรรับผิดชอบในการกำกับดูแลผลิตภัณฑ์อนุพันธ์คริปโตเฉพาะทาง