Aurora Labs เปิดตัว TurboChain และ TurboSwap ซึ่งเป็นส่วนเสริมใหม่ในระบบนิเวศ TURBO โดยสร้างขึ้นจากเทคโนโลยีของ NEAR Protocol และโครงสร้างพื้นฐานของ Aurora เพื่อพัฒนาบริการทางการเงินแบบกระจายอำนาจ (DeFi) ให้ดียิ่งขึ้น พร้อมเพิ่มประโยชน์ใช้สอยของโทเคนและสนับสนุนการพัฒนาบล็อกเชนที่ขับเคลื่อนโดยชุมชน
**TurboChain: บล็อกเชน AI สำหรับเหรียญมีมแรกของโลก**
TurboChain เป็นนวัตกรรมใหม่สำหรับวงการคริปโต โดยใช้เทคโนโลยี Virtual Chain ของ Aurora ที่ช่วยให้ระบบ TURBO มีความเร็วสูง รองรับการขยายตัวได้ดี ทำงานร่วมกับบล็อกเชนอื่นได้ และปรับแต่งได้ตามต้องการ บล็อกเชนนี้จะใช้โทเคน TURBO สำหรับทุกธุรกรรม ช่วยลดค่าธรรมเนียมและเพิ่มความเร็ว ทำให้นักลงทุนรายย่อยเข้าถึงได้ง่าย
นอกจากนี้ TurboChain ยังสนับสนุนการพัฒนาแอปพลิเคชันแบบกระจายศูนย์ (dApps) และการเชื่อมต่อข้ามบล็อกเชน เช่น Ethereum (ETH), NEAR และระบบอื่น ๆ ที่มีชื่อเสียง
**TurboSwap: แพลตฟอร์มเทรดแบบกระจายศูนย์**
TurboSwap คือแพลตฟอร์มการซื้อขายที่เน้นค่าธรรมเนียมต่ำ ความเร็วสูง ใช้งานง่าย และมีสภาพคล่องข้ามบล็อกเชน ช่วยให้ผู้ใช้สามารถทำธุรกรรมสินทรัพย์ได้อย่างราบรื่นระหว่าง Ethereum, Bitcoin (BTC), NEAR, Solana (SOL), Dogecoin (DOGE), TurboChain และอีกมากมาย
**ก้าวแรกสู่เป้าหมายบล็อกเชน 1,000 เครือข่าย**
Aurora Labs มีแผนเปิดตัวบล็อกเชนเชื่อมต่อกัน 1,000 เครือข่ายในปี 2025 ผ่าน Aurora Cloud โดย TurboChain และ TurboSwap ถือเป็นก้าวแรกในแผนนี้
TurboChain และ TurboSwap แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของ Virtual Chain ของ Aurora ในการเปลี่ยนไอเดียให้กลายเป็นระบบบล็อกเชนที่ขยายตัวได้ อีกทั้งยังช่วยสร้างมาตรฐานใหม่สำหรับการพัฒนานวัตกรรมบล็อกเชนและความสามารถในการทำงานร่วมกัน
Aurora Cloud ยังมุ่งส่งเสริมการสร้างบล็อกเชนเสมือนที่ราคาประหยัด ขยายตัวได้ และใช้งานง่ายโดยไม่ต้องมีทักษะเทคโนโลยีมาก่อน รวมถึงผสานผลิตภัณฑ์เข้ากับบล็อกเชนหลักอื่น ๆ ในชุมชนคริปโตได้อย่างไร้รอยต่อ
