มากกว่าหนึ่งสัปดาห์หลังจากที่เจค พอลชนะไมค์ ไทสันอย่างชัดเจนแต่ไม่ค่อยน่าตื่นเต้น กระแสข่าวลือออนไลน์ที่บอกว่าการชกครั้งนี้ “ถูกจัดฉาก” ยังคงแพร่กระจายอยู่ ในวันจันทร์ที่ผ่านมา บริษัทโปรโมชัน Most Valuable Promotions (MVP) ได้ออกแถลงการณ์เพื่อยุติข่าวลือเหล่านี้อย่างชัดเจน โดยย้ำว่าการชกครั้งนี้เป็นการแข่งขันที่ยุติธรรมและถูกต้องตามกฎหมาย
การชกครั้งนี้เป็นการแข่งขันแบบมืออาชีพ ภายใต้กติกาพิเศษ เช่น การใช้ถุงมือที่ใหญ่กว่าปกติและรอบละสองนาที การถ่ายทอดสดผ่าน Netflix ดึงดูดผู้ชมจำนวนมาก แต่กลับขาดความเร้าใจในแง่ของการแสดงฝีมือ ไทสันวัย 58 ปีปล่อยหมัดรวมไม่ถึง 20 ครั้งตลอดทั้ง 8 ยก ขณะที่พอลใช้เทคนิคการชกแบบระมัดระวัง โจมตีด้วยหมัดตรงและหมัดลำตัวเป็นหลัก และเพียงบางครั้งเท่านั้นที่เขาออกหมัดหนัก
แม้ผลจะออกมาเป็นเช่นนี้ แต่แฟนๆ บางส่วนยังคงไม่เชื่อว่าไทสันที่มีประสบการณ์และเคยเป็นตำนาน จะไม่สามารถสู้กับนักมวยที่อายุน้อยกว่าและใหญ่กว่าได้ นอกจากนี้ เจค พอลเองก็เคยเจอกับข้อกล่าวหาว่าการชกของเขาถูกจัดฉากมาแล้วหลายครั้ง ทำให้เกิดกระแสวิจารณ์อีกครั้งว่าไฟต์นี้อาจไม่เป็นของจริง
MVP ยืนยันในแถลงการณ์ว่า “การจัดฉากการแข่งขันมวยมืออาชีพถือเป็นอาชญากรรมในระดับรัฐบาลกลางในสหรัฐอเมริกา การแข่งขันระหว่างพอลกับไทสันได้รับการรับรองจากหน่วยงานกำกับดูแลของรัฐเท็กซัส (TDLR) นักมวยทั้งสองฝ่ายได้แสดงศักยภาพของตนอย่างเต็มที่โดยมีเป้าหมายเพื่อชัยชนะ ไม่มีข้อจำกัดใดๆ ทั้งในด้านสัญญาหรือรูปแบบอื่นๆ ที่จะขัดขวางนักมวยจากการใช้ทักษะทั้งหมดของพวกเขา การทำเช่นนั้นจะเป็นการละเมิดกฎของ TDLR”
MVP ยังกล่าวเสริมว่า “การพูดเล่นหรือการตั้งสมมติฐานในกีฬาเป็นเรื่องปกติ และนักกีฬาและผู้จัดต้องอดทนต่อความคิดเห็นที่ไม่มีเหตุผล แต่การกล่าวหาว่านักมวยไม่ได้พยายามอย่างเต็มที่นั้นไม่เพียงแค่ไร้สาระ แต่ยังเป็นการดูถูกความพยายามและความตั้งใจของพวกเขา รวมถึงศักดิ์ศรีของกีฬานี้ด้วย”
ส่วนหนึ่งของข่าวลือเหล่านี้อาจมาจากคลิปฝึกซ้อมของไทสันที่ดูรวดเร็วและแข็งแรงขณะซ้อมบนเป้า ซึ่งแตกต่างจากการต่อสู้จริงที่ต้องเผชิญกับคู่ต่อสู้ที่ต่อต้าน ไทสันยังเปิดเผยว่าเขามีปัญหาสุขภาพก่อนหน้าการแข่งขันในเดือนกรกฎาคม ทีมของเขาอธิบายว่าเป็น “ปัญหาแผลในกระเพาะ” แต่หลังจากนั้นไทสันได้กล่าวว่ามันร้ายแรงกว่านั้นมาก โดยเขาเคยทวีตว่า “ผมเกือบเสียชีวิตในเดือนมิถุนายน ต้องถ่ายเลือดถึง 8 ครั้ง เสียเลือดไปครึ่งหนึ่งและน้ำหนักลดถึง 25 ปอนด์ในโรงพยาบาล ผมต้องต่อสู้เพื่อกลับมาแข็งแรงเพื่อแข่งขัน”
อย่างไรก็ตาม ข้อเท็จจริงเหล่านี้ยังไม่เพียงพอที่จะหยุดผู้คนจากความสงสัย โดยเฉพาะเมื่อพอลเป็นฝ่ายชนะ ซึ่งไม่แปลกนักเพราะอาชีพนักมวยของเขาส่วนหนึ่งก็สร้างขึ้นจากแฟนๆ ที่หวังจะเห็นเขาพ่ายแพ้
Nakisa Bidarian ผู้ร่วมก่อตั้ง MVP กล่าวว่า “นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เจค พอลต้องเผชิญกับความสงสัยหรือการปฏิเสธความสามารถในฐานะนักกีฬาอาชีพ และคำกล่าวหาว่าการชกครั้งนี้ถูกจัดฉากก็เป็นเพียงคำชมเชิงดูถูกอีกครั้ง ตั้งแต่วันแรกที่เข้าสู่วงการนี้ ผู้คนต่างสงสัยในความสามารถของเขา แต่เจคได้พิสูจน์ตัวเองซ้ำแล้วซ้ำอีก เขายังทำลายสถิติสำคัญหลายครั้ง การแข่งขันครั้งนี้ซึ่งทำลายทั้งยอดผู้ชมและผู้เข้าร่วม ก็เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งของความสามารถของเขาในการสร้างผลงานบนเวทีใหญ่ ตราบใดที่เจคยังคงทำเกินความคาดหวัง จะมีคนที่พยายามลดคุณค่าความสำเร็จของเขาอยู่เสมอ แต่เรายินดีรับมือกับข้อสงสัยเหล่านี้ เพราะมันเป็นแรงผลักดันให้เจคทำงานหนักขึ้นและประสบความสำเร็จมากขึ้น”
