สมาคมบาสเกตบอลแห่งชาติ (NBA) และสมาคมผู้เล่นบาสเกตบอลแห่งชาติ (NBPA) ได้ประกาศรูปแบบใหม่สำหรับเกม NBA All-Star ปี 2025 ซึ่งจะจัดขึ้นในบริเวณอ่าวซานฟรานซิสโก งานที่ปรับเปลี่ยนใหม่นี้จะจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 16 กุมภาพันธ์ ที่สนาม Chase Center ซึ่งเป็นบ้านของทีม Golden State Warriors และจะถ่ายทอดสดเวลา 20:00 น. ตามเวลามาตรฐานตะวันออก (ET) ทางช่อง TNT
ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ เกม NBA All-Star จะมาในรูปแบบทัวร์นาเมนต์ขนาดเล็ก มีทั้งหมด 4 ทีมและ 3 เกม โดยสองทีมแรกจะแข่งขันกันในรอบรองชนะเลิศเกมแรก (Game 1) และอีกสองทีมจะแข่งในรอบรองชนะเลิศเกมที่สอง (Game 2) ทีมที่ชนะจากทั้งสองเกมนี้จะเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ (Game 3) แต่ละเกมจะมีผู้ชนะเมื่อทีมใดทีมหนึ่งทำคะแนนได้ถึงหรือเกิน 40 แต้มก่อน
แต่ละทีมจะมีผู้เล่น 8 คน โดยจะตั้งชื่อทีมตามนักวิเคราะห์ NBA ของช่อง TNT ผู้เล่น All-Star ทั้งหมด 24 คนจะถูกแบ่งออกเป็นสามทีม โดยการเลือกตัวผู้เล่นจะดำเนินการโดยนักวิจารณ์ของรายการ Inside the NBA อย่าง Charles Barkley, Shaquille O’Neal และ Kenny Smith ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นผู้จัดการทีมเกียรติยศของ Team Chuck, Team Shaq และ Team Kenny และพวกเขาจะเลือกทีมกันแบบสดๆ ในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ ก่อนการถ่ายทอดสดคู่แข่งขันสองเกมของคืนวันนั้น
สำหรับทีมที่สี่ จะเป็นผู้ชนะจากเกมชิงแชมป์ของ Castrol Rising Stars ซึ่งเป็นงานโชว์ความสามารถของผู้เล่น NBA ปีแรกและปีที่สอง รวมถึงดาวเด่นจาก NBA G League ที่จะจัดขึ้นในวันศุกร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ นักวิเคราะห์จากช่อง TNT และตำนาน WNBA อย่าง Candace Parker จะทำหน้าที่เป็นผู้จัดการทีมเกียรติยศของทีมนี้ ซึ่งจะเรียกว่า Team Candace
กระบวนการโหวตเพื่อคัดเลือกผู้เล่น NBA All-Star ทั้ง 24 คนจะยังคงเหมือนเดิม ผู้เล่นตัวจริง 5 คนจากแต่ละฝั่งจะถูกเลือกโดยแฟนๆ (50% ของคะแนนโหวต) ผู้เล่นปัจจุบันของ NBA (25%) และคณะสื่อมวลชน (25%) ส่วนผู้เล่นสำรองอีก 7 คนจากแต่ละฝั่งจะถูกเลือกโดยหัวหน้าโค้ชของ NBA
หัวหน้าโค้ชทั้ง 4 ทีมสำหรับเกม NBA All-Star จะถูกเลือกจากทีมที่มีสถิติชนะมากที่สุดในแต่ละฝั่งจนถึงวันที่ 2 กุมภาพันธ์ หัวหน้าโค้ชของทีมที่นำในฝั่งตะวันออกและตะวันตกจะได้รับหน้าที่ดูแลทีม NBA All-Star ในขณะที่ผู้ช่วยโค้ชจากทีมเหล่านั้นจะทำหน้าที่ดูแลทีม Castrol Rising Stars และอีกหนึ่งทีม All-Star ที่เหลือ
ทั้ง 4 ทีมที่เข้าร่วมการแข่งขัน NBA All-Star จะชิงเงินรางวัลรวมมูลค่า 1.8 ล้านดอลลาร์ โดยผู้เล่นในทีมที่ได้แชมป์จะได้รับคนละ 125,000 ดอลลาร์ ทีมรองแชมป์คนละ 50,000 ดอลลาร์ และผู้เล่นในทีมอันดับสามและสี่คนละ 25,000 ดอลลาร์
**การโหวต NBA All-Star โดย AT&T**
การโหวต NBA All-Star ปีนี้จะเริ่มต้นวันที่ 19 ธันวาคม เวลา 10:00 น. ET และสิ้นสุดวันที่ 20 มกราคม เวลา 23:59 น. ET แฟนๆ สามารถโหวตผ่านแอป NBA และเว็บไซต์ NBA.com โดยใช้ NBA ID ซึ่งสมัครฟรี
สมาชิก NBA ID ยังมีสิทธิ์ร่วมกิจกรรมพิเศษเพื่อรับรางวัลทริปไปยังอ่าวซานฟรานซิสโกสำหรับงาน NBA All-Star ปี 2025 ในช่วงระยะเวลาโหวต สมาชิกสามารถส่งบัตรโหวตเต็มรูปแบบได้วันละหนึ่งครั้ง ซึ่งบัตรโหวตจะต้องประกอบด้วยผู้เล่นตำแหน่งฟรอนต์คอร์ต 3 คนและการ์ด 2 คนจากทั้งฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตก
นอกจากนี้ ยังมี “วันโหวตพิเศษ 3 ต่อ 1” ทั้งหมด 6 วัน ซึ่งคะแนนโหวตของสมาชิก NBA ID จะถูกนับเป็นสามเท่า ได้แก่ วันที่ 21 ธันวาคม, 25 ธันวาคม, 3 มกราคม, 10 มกราคม, 17 มกราคม และวันที่สุดท้ายของการโหวตคือ 20 มกราคม
ผลการโหวตของแฟนๆ จะถูกเผยแพร่ในวันพฤหัสบดีสามครั้งแรกของเดือนมกราคม (วันที่ 2, 9 และ 16) และช่อง TNT จะประกาศรายชื่อผู้เล่นตัวจริงในวันที่ 23 มกราคม และรายชื่อสำรองในวันที่ 30 มกราคม