เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา บิทคอยน์ (Bitcoin – BTC) ได้ทำลายสถิติสูงสุดด้วยมูลค่าทะลุ $100,000 และแตะระดับสูงสุดใหม่ที่ $108,000 ซึ่งการเพิ่มขึ้นของบิทคอยน์นี้ได้กระตุ้นให้เหรียญคริปโตอื่นๆ หรือที่เรียกว่า “อัลต์คอยน์” (Altcoins) มีการเติบโตตามไปด้วย
**ฤดูแห่งอัลต์คอยน์มาเยือน**
จากดัชนี Altcoin Season Index ของ Blockchain Centre ซึ่งวัดอัตราการเติบโตของอัลต์คอยน์เมื่อเทียบกับบิทคอยน์ แสดงให้เห็นว่า 75% ของอัลต์คอยน์ชั้นนำ 50 อันดับแรกมีผลตอบแทนดีกว่าบิทคอยน์ในช่วง 90 วันที่ผ่านมา นี่ถือเป็นสัญญาณของ “ฤดูอัลต์คอยน์” และการที่ดัชนีแตะระดับเกิน 60% มักจะนำไปสู่การเพิ่มขึ้นครั้งใหญ่ของอัลต์คอยน์ในอดีต
การพุ่งขึ้นของบิทคอยน์ในช่วงสองปีที่ผ่านมา เป็นแรงผลักดันสำคัญของการเติบโตในตลาดคริปโต พร้อมด้วยปัจจัยทางการเมือง เช่น การที่โดนัลด์ ทรัมป์ ได้รับเลือกตั้งในสหรัฐฯ และแต่งตั้ง Paul Atkins ผู้สนับสนุนคริปโตเข้ามาเป็นประธาน SEC แทน Gary Gensler ผู้ซึ่งถูกมองว่าเป็นฝ่ายตรงข้ามกับวงการคริปโต
**Ethereum และ Solana เดินหน้าเต็มกำลัง**
อีเธอเรียม (Ethereum – ETH) ซึ่งเป็นคริปโตที่มีมูลค่าตลาดใหญ่เป็นอันดับสอง ได้พุ่งขึ้นถึง R70,000 ในสกุลเงินท้องถิ่น พร้อมทั้งสร้าง “จุดสูงสุด 4 ครั้ง” (Quadruple Top) ซึ่งนักวิเคราะห์หลายคนมองว่าเป็นสัญญาณของการปรับตัวขึ้นครั้งใหญ่อีกครั้ง
โซลาน่า (Solana) ที่ครั้งหนึ่งเคยถูกเรียกว่า “นักฆ่าอีเธอเรียม” ก็ไม่ยอมน้อยหน้า โดยแตะระดับ $240 ซึ่งเป็นระดับที่ไม่เคยเห็นมาตั้งแต่ปี 2021 โซลาน่าโดดเด่นในเรื่องของความเร็วและความสามารถในการขยายตัว โดยรองรับธุรกรรมได้ถึง 4,369 รายการต่อวินาที ในขณะที่ค่าธรรมเนียมอยู่ที่เพียง $0.0025 ต่อรายการ ซึ่งถูกมากเมื่อเทียบกับระบบดั้งเดิม เช่น Visa ที่รองรับได้ประมาณ 1,700 รายการต่อวินาที
**Ripple/XRP กลับมาสู่เวทีใหญ่**
XRP ซึ่งเป็นเหรียญคริปโตของ Ripple ได้เพิ่มขึ้นเกือบ 400% ในเดือนที่ผ่านมา หลังจากชนะคดีความกับ SEC ที่ก่อนหน้านี้กล่าวหา Ripple ว่าดำเนินการโดยไม่มีใบอนุญาตที่ถูกต้อง ตอนนี้ Ripple ได้จ่ายค่าปรับจำนวน $125 ล้าน และพร้อมเดินหน้าต่อ นอกจากนี้ ยังมีข่าวดีเพิ่มเติมเกี่ยวกับการยื่นคำขอเปิดกองทุน ETF สำหรับ XRP ซึ่งอาจดึงดูดเงินทุนจากนักลงทุนรายใหญ่มากขึ้น
XRP ถูกออกแบบมาเพื่อการชำระเงินข้ามประเทศที่รวดเร็วและต้นทุนต่ำ ทำให้มันกลายเป็นที่สนใจในวงกว้างอีกครั้ง
**Tron กับความหวังใหม่**
Tron ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มแบบกระจายศูนย์สำหรับสร้างและแบ่งปันเนื้อหาดิจิทัล ได้รับประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงผู้นำใน SEC เช่นเดียวกับ Ripple Tron มุ่งหวังที่จะกำจัดตัวกลางระหว่างผู้สร้างเนื้อหาและผู้ชม เพื่อเพิ่มรายได้ให้กับผู้สร้างเนื้อหาโดยตรง
**Stablecoins และการเติบโตของการใช้คริปโตในชีวิตประจำวัน**
Stablecoins อย่าง Tether และ USDC ที่มีมูลค่าตลาดรวมกว่า $170 พันล้าน ถูกใช้อย่างกว้างขวางเพื่อหลีกเลี่ยงความผันผวนของคริปโต รวมถึงใช้ป้องกันความเสี่ยงจากค่าเงินที่ลดลงและการส่งเงินกลับประเทศ โดยปริมาณการชำระเงินด้วย Stablecoins ตอนนี้อยู่ที่ $300 พันล้านต่อวัน เพิ่มขึ้นถึง 180% ตั้งแต่ต้นปี 2024
**แนวโน้มในอนาคต: AI และสินทรัพย์ที่ถูกโทเคน**
ในปี 2025 คาดว่าจะมีการเติบโตของ “AI Agents” หรือบอต AI ที่ออกแบบมาเพื่อเพิ่มผลตอบแทนหรือสร้างปฏิสัมพันธ์บนโซเชียลมีเดีย บอตเหล่านี้เริ่มกลายเป็นผู้มีอิทธิพลบนแพลตฟอร์มอย่าง X/Twitter เช่น Bixby และ Terminal of Truths ที่มีผู้ติดตามหลายหมื่นคน
อีกหนึ่งแนวโน้มที่น่าจับตามองคือการนำสินทรัพย์ในโลกจริง เช่น อสังหาริมทรัพย์หรือหุ้น มาแปลงเป็นโทเคนเพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ลงทุนสามารถถือครองแบบแบ่งส่วนได้ง่ายขึ้น พร้อมกับกระบวนการชำระเงินที่รวดเร็ว หนึ่งในบริษัทที่อาจเป็นผู้นำด้านนี้คือ Coinbase ซึ่งกำลังพิจารณาแปลงหุ้นของตัวเองให้กลายเป็นโทเคนบนบล็อกเชน BASE ของบริษัท
ตลาดคริปโตยังคงเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและโอกาสใหม่ๆ ที่รออยู่