Worldcoin เริ่มต้นจากคำถามง่าย ๆ แต่ลึกซึ้ง: จะเป็นไปได้หรือไม่ที่จะกระจายโทเค็นดิจิทัลใหม่ให้กับทุกคนทั่วโลกอย่างเสรีและเท่าเทียม?
การตอบคำถามนี้จำเป็นต้องเผชิญกับปัญหาที่กว้างขึ้นเกี่ยวกับการรวมความเป็นมนุษย์เข้ากับระบบดิจิทัลระดับโลก อย่างเช่น เราจะแจกจ่ายทรัพย์สินดิจิทัลให้ทุกคนได้อย่างไร หากไม่มีวิธีการดิจิทัลที่สามารถยืนยันตัวตนของมนุษย์?
ปัจจุบัน Worldcoin มีผู้ร่วมพัฒนาโครงการมากมายและชุมชนที่กำลังเติบโตอยู่ใน 5 ทวีป รวมทั้งหมด 8,792,620 คนภายในเป้าหมายเดียว นั่นคือการสร้างเครือข่ายที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่ผสานการยืนยันตัวตนและการเงิน เพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าถึงเศรษฐกิจโลกได้อย่างเปิดกว้าง และยังคงสอดคล้องกับมาตรฐานทางกฎหมาย
Worldcoin คือโครงการคริปโตเคอร์เรนซีที่ใช้เทคโนโลยี AI และบล็อกเชนเพื่อพลิกโฉมวิธีการยืนยันตัวตนและการทำธุรกรรมระดับโลก
ด้วยการนำโดย Sam Altman ซีอีโอของ OpenAI โครงการนี้ใช้เทคนิคการยืนยันตัวตนที่ไม่เหมือนใครผ่านการสแกนม่านตา ลวดลายเฉพาะในม่านตาของคุณจะกลายเป็น “รหัสตัวตนดิจิทัล” ซึ่งสามารถแยกคุณออกจากบอทหรือสิ่งประดิษฐ์ที่ไม่ใช่มนุษย์ได้
ความก้าวหน้านี้สำคัญมากในยุคที่ความปลอดภัยทางไซเบอร์กลายเป็นความท้าทาย โดยเฉพาะเมื่อ Web3 กำลังพัฒนา ในบทความนี้ เราจะวิเคราะห์การคาดการณ์ราคาของ Worldcoin ในอนาคต
เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2023 Sam Altman ได้เปิดตัว Worldcoin ซึ่งเป็นคริปโตเคอร์เรนซีรูปแบบใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อเพิ่มความปลอดภัยและลดการฉ้อโกง โครงการนี้ดึงดูดความสนใจจากทั่วโลก
Worldcoin ใช้เทคโนโลยีการสแกนม่านตาเพื่อตรวจสอบว่า “คุณเป็นมนุษย์” ไม่ใช่บอท ถูกสร้างขึ้นโดย Sam Altman, Alex Blania และ Max Novendstern โดยผสาน AI, บล็อกเชน และคริปโตเคอร์เรนซีภายใต้กรอบโอเพ่นซอร์สเพื่อให้ทุกคนเข้าถึงเศรษฐกิจโลกได้
Worldcoin ทำงานในรูปแบบกระจายศูนย์ (Decentralized) ซึ่งแตกต่างจากธนาคารหรือองค์กรแบบรวมศูนย์ การพัฒนาโครงการนี้ใช้เวลาสองปี โดยมีเป้าหมายเพื่อลดความไม่เท่าเทียมทางรายได้ผ่าน “World ID”
World ID เป็นระบบที่ยืนยันตัวตนมนุษย์ ป้องกันบอทและ AI ประกอบด้วยองค์ประกอบหลัก 3 ส่วน:
1. **Orb Device** – อุปกรณ์ทรงกลมสำหรับสแกนม่านตา
2. **World ID** – รหัสตัวตนดิจิทัล
3. **Crypto Wallet** – กระเป๋าเงินดิจิทัลสำหรับเก็บโทเค็น
ผู้เข้าร่วมต้องสแกนม่านตาผ่าน Orb ซึ่งมีศูนย์บริการใน 35 ประเทศ กระบวนการนี้สร้างรหัสเฉพาะจากลวดลายม่านตาและจัดเก็บบนบล็อกเชนที่กระจายศูนย์ ข้อมูลจะถูกเข้ารหัสเพื่อป้องกันการละเมิด
เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2024 Worldcoin เปิดตัวระบบ Secure Multi-Party Computation (SMPC) เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของข้อมูลไบโอเมตริกซ์ ระบบนี้เข้ารหัสข้อมูลม่านตาเป็นส่วนย่อย ๆ และจัดเก็บไว้ในสถานที่ต่าง ๆ เพื่อป้องกันการโจมตีทางไซเบอร์ รวมถึงภัยคุกคามจากควอนตัมคอมพิวติ้ง
แม้ว่า Worldcoin จะอ้างว่าปฏิบัติตามมาตรฐานความลับ แต่ก็มีความกังวลเกี่ยวกับการเก็บข้อมูลไบโอเมตริกซ์และความปลอดภัยของข้อมูลเหล่านี้ เช่น การสแกนม่านตาที่อาจถูกขายในตลาดมืด
ในด้านราคา ปัจจุบัน Worldcoin มีแนวโน้มราคาที่เพิ่มขึ้น โดยราคาล่าสุดอยู่ที่ $3.25 และอาจเพิ่มขึ้นถึง $4.1 หรือสูงกว่า อย่างไรก็ตาม หากราคาตกต่ำลงต่ำกว่า $3 อาจทำให้ตลาดสูญเสียโมเมนตัมและราคาลดลงถึง $2.5 หรือ $2.2
ในอนาคต นักวิเคราะห์คาดว่า Worldcoin จะเพิ่มมูลค่า โดยมีเป้าหมายสูงสุดถึง $59.72 ภายในปี 2033 แต่ยังคงมีความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาดคริปโต
Vitalik Buterin ผู้ร่วมก่อตั้ง Ethereum ชื่นชมแนวคิดเรื่องความปลอดภัยของข้อมูล แต่ยังมีข้อกังวลเกี่ยวกับการพึ่งพาอุปกรณ์ Orb มากเกินไป ในขณะที่ Jack Dorsey ผู้ก่อตั้ง Twitter แสดงความเห็นแบบประชดประชันเกี่ยวกับโครงการนี้
แม้ว่าจะมีข้อสงสัยและคำวิจารณ์ แต่ Sam Altman เชื่อมั่นว่าโครงการนี้สามารถสร้างความก้าวหน้าได้ และอาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในการยืนยันตัวตนบนโลกออนไลน์
