บิทคอยน์ (BTC) ที่เพิ่งทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ $107,000 เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เผชิญกับการลดลงในช่วงสุดสัปดาห์ โดยราคาลดลงมาอยู่ในช่วง $92,000 ก่อนที่จะฟื้นตัวอีกครั้ง สาเหตุที่ทำให้ราคาลดลงมานี้เชื่อว่าเกิดจากตัวเลขเงินเฟ้อที่อ่อนแอและท่าทีแข็งกร้าวของเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ที่มีต่อคริปโตเคอร์เรนซี อย่างไรก็ตาม โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ประกาศรายชื่อผู้ที่ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งในคณะรัฐมนตรี ซึ่งรวมถึงสมาชิก “Crypto Council” หรือสภาที่ปรึกษาด้านคริปโตโดยเฉพาะด้วย คงต้องติดตามต่อไปว่าการประกาศนี้จะส่งผลต่อราคาของโทเคนต่างๆ หรือไม่ แต่ก็มีความเป็นไปได้ที่ราคาของ BTC อาจปรับตัวขึ้นก่อนที่ทรัมป์จะเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ
ควรเน้นย้ำว่าตลาดคริปโตทั้งหมดและราคาของเหรียญดิจิทัลมีความผันผวนสูงมาก จึงไม่มีวิธีที่แน่นอนในการคาดการณ์พฤติกรรมของคริปโตเคอร์เรนซีในอนาคต
บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อช่วยให้นักลงทุนติดตามสถานการณ์ปัจจุบันในตลาด รวมถึงเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นแล้วและสิ่งที่กำลังจะมาถึง นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้รอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุนใดๆ
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (16 ธันวาคม) มูลค่าตลาดคริปโตทั้งหมดอยู่ที่ $3.69 ล้านล้าน โดยราคาของ BTC อยู่ที่ประมาณ $99,500 และ ETH อยู่ที่ประมาณ $3,900 หนึ่งสัปดาห์ต่อมา มูลค่าตลาดรวมยังคงอยู่ที่ระดับเดิมคือ $3.69 ล้านล้าน
**ราคาเหรียญคริปโตที่น่าสนใจวันนี้**
ปริมาณการซื้อขายของ DeFi อยู่ที่ $10.53 พันล้าน คิดเป็น 7.15% ของปริมาณการซื้อขายทั้งหมดใน 24 ชั่วโมง ขณะที่ Stablecoin มีปริมาณการซื้อขายรวมอยู่ที่ $136.47 พันล้าน หรือ 92.69% ของปริมาณการซื้อขายทั้งหมดใน 24 ชั่วโมง ตามข้อมูลของ CoinMarketCap ดัชนีความกลัวและความโลภในตลาดคริปโตอยู่ในระดับ “ปกติ” ที่ 54 คะแนน (จาก 100)
ส่วนแบ่งตลาดของ BTC ณ เวลาที่เขียนบทความนี้อยู่ที่ 57.29%
ในช่วง 7 วันที่ผ่านมา Bitcoin ทำราคาสูงสุดได้ที่ $107,858.93 (วันที่ 17 ธันวาคม) และต่ำสุดที่ $92,422.86 (วันที่ 20 ธันวาคม) ส่วน Ethereum ทำราคาสูงสุดได้ที่ $4,085.81 (วันที่ 17 ธันวาคม) และต่ำสุดที่ $3,117.31 (วันที่ 20 ธันวาคม)
Bitcoin เผชิญกับการลดลงรายสัปดาห์ครั้งแรกตั้งแต่ราคาพุ่งสูงหลังจากชัยชนะของทรัมป์ในการเลือกตั้ง โดยราคาลดลงถึง 10% ในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 22 ธันวาคม ปิดตลาดที่ $94,645 ลดลงประมาณ $10,500 จากราคาเปิดที่ $105,185 ตามข้อมูลจาก TradingView
การลดลงนี้เกิดขึ้นพร้อมกับสัญญาณเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินจากธนาคารกลางสหรัฐฯ โดยคณะกรรมการตลาดเปิดแห่งสหรัฐฯ (FOMC) ได้ลดการคาดการณ์เกี่ยวกับการลดอัตราดอกเบี้ยในปี 2024 จากห้าครั้งเหลือเพียงสองครั้ง หลังจากลดอัตราดอกเบี้ยติดต่อกันเป็นครั้งที่สาม
นอกจากนี้ บริษัท Metaplanet จากญี่ปุ่นได้สร้างประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญด้วยการซื้อ Bitcoin มากที่สุดเท่าที่เคยมีมา โดยซื้อ BTC จำนวน 619.7 เหรียญ คิดเป็นมูลค่าเกือบ $60 ล้าน ในขณะที่ราคาของคริปโตอยู่ต่ำกว่า $100,000 ต่อเหรียญ ณ เวลาที่ทำธุรกรรม
สำหรับ Metaplanet นี่เป็นการลงทุนขนาดใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่ง โดยเพิ่มขึ้นเกือบสี่เท่าจากการซื้อ BTC จำนวน 159.7 เหรียญเมื่อวันที่ 28 ตุลาคมที่ผ่านมา บริษัทนี้ได้ลงทุนใน Bitcoin อย่างต่อเนื่องตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ซึ่งสะท้อนถึงความเชื่อมั่นในศักยภาพระยะยาวของสินทรัพย์ดิจิทัลนี้
สุดท้ายนี้ โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ประกาศแต่งตั้ง โบ ไฮน์ส เป็นผู้อำนวยการบริหารสำหรับหน่วยงานที่ปรึกษาสินทรัพย์ดิจิทัลภายใต้รัฐบาลใหม่ของเขา ไฮน์ส อดีตนักฟุตบอลมหาวิทยาลัยและผู้สมัครรับเลือกตั้งจากพรรครีพับลิกันในปี 2022 จะดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการบริหารของสภาที่ปรึกษาประธานาธิบดีด้านสินทรัพย์ดิจิทัล หรือ “Crypto Council” ทรัมป์ได้ประกาศเรื่องนี้เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม ผ่านแพลตฟอร์ม Truth Social ของเขา โดยเน้นว่าสภานี้จะมุ่งเน้นไปที่สินทรัพย์ดิจิทัล การดำเนินงานนี้จะอยู่ภายใต้การดูแลของเดวิด แซ็กส์ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้รับการแต่งตั้งเป็นหัวหน้าฝ่ายคริปโตและปัญญาประดิษฐ์ของรัฐบาล
นักวิเคราะห์ Mudrex กล่าวว่าการลดลงของราคาบิทคอยน์นี้เป็นโอกาสในการสะสมสำหรับนักลงทุนเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับช่วงขาขึ้นต่อไป ในขณะที่ Thangapandi Durai จาก Koinpark ระบุว่าตลาดคริปโตยังคงได้รับความสนใจจากนักลงทุนสถาบัน แต่ควรระวังโอกาสในการปรับฐานระยะสั้น
