ไมเคิล แชนด์เลอร์ ออกมาตอบโต้ข้อกล่าวหาที่เขาเจตนาโกงกติกาในระหว่างการต่อสู้ใน UFC
แชนด์เลอร์ อดีตแชมป์ไลต์เวทจาก Bellator ได้กลับมาขึ้นเวทีอีกครั้งในรายการ UFC 309 ที่นิวยอร์กซิตี้ เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา โดยเขาได้เจอกับชาร์ลส์ โอลิเวร่า ตำนานนักสู้ชาวบราซิล แม้ว่าเขาจะพ่ายแพ้ไปด้วยคะแนนเอกฉันท์หลังผ่าน 5 ยก แต่เขาก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักหลังจบการต่อสู้ เนื่องจากมีการกล่าวหาว่าเขาต่อยบริเวณด้านหลังศีรษะของโอลิเวร่า ซึ่งถือเป็นการทำผิดกติกาใน MMA ในช่วงยกสุดท้าย
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่แชนด์เลอร์ถูกกล่าวหาว่าโกงระหว่างการต่อสู้ คู่ต่อสู้คนก่อนอย่างดัสติน พัวริเยร์ ก็เคยกล่าวหาเขาเรื่องการละเมิดกติกาโดยเจตนาเช่นกัน แต่แชนด์เลอร์ยืนยันว่าเขาไม่ได้เป็นนักสู้ที่เล่นสกปรก
“ผมเป็นคนซื่อสัตย์” แชนด์เลอร์กล่าวในบทสัมภาษณ์ “ผมพยายามใช้ชีวิตด้วยความซื่อสัตย์และจริงใจ เรื่องราวที่ถูกสร้างขึ้นเกี่ยวกับผมมันไม่ใช่สิ่งที่ผมสนใจหรือมีความสุขกับมันเลย”
เมื่อพูดถึงข้อกล่าวหาว่าต่อยด้านหลังศีรษะของโอลิเวร่า แชนด์เลอร์อธิบายว่า “ผมไม่คิดว่าผมทำอะไรผิด คนอาจจะดูภาพช้าๆ และวิเคราะห์ แต่ตามกฎของ MMA บริเวณด้านหลังศีรษะที่ผิดกติกาคือเส้นที่ลากจากจุดยอดของศีรษะลงมาถึงต้นคอ โดยมีระยะเผื่อข้างละหนึ่งนิ้ว ดังนั้นพื้นที่ทั้งหมดที่ถือว่าผิดกติกาจะมีเพียงสองนิ้วเท่านั้น”
“และถ้าคุณดูจริงๆ เกือบ 90 เปอร์เซ็นต์ของหมัดที่ผมปล่อยออกไปมันโดนบริเวณใบหู และถ้ามันโดนใบหู มันไม่ได้ถือว่าเป็นด้านหลังศีรษะ”
แชนด์เลอร์ยังชี้ให้เห็นว่าผู้ตัดสินที่อยู่ใกล้เหตุการณ์ที่สุดก็ไม่ได้เข้ามาหยุดการต่อสู้หรือเตือนเขาเกี่ยวกับการทำผิดกติกา “ผู้ตัดสินที่อยู่ห่างจากผมแค่สองฟุตไม่ได้พูดอะไรเลย แต่กลับมีคนวิจารณ์จากระยะ 35 ฟุตว่าเป็นการต่อยด้านหลังศีรษะ และยังมีคนเปรียบเทียบกับไฟต์ที่ผมเจอกับพัวริเยร์อีกด้วย”
“สุดท้ายแล้ว คุณกำลังอยู่ในสถานการณ์ที่คุณต้องพยายามทำแต้มและเอาชนะคู่ต่อสู้ คุณไม่ได้คิดถึงเส้นเล็กๆ สีแดงบนด้านหลังศีรษะตลอดเวลา”
ความพ่ายแพ้ในครั้งนี้ทำให้สถิติของแชนด์เลอร์ใน UFC เป็น 2-4 โดยนี่เป็นการแพ้ให้กับโอลิเวร่าครั้งที่สอง หลังจากที่เขาเคยพ่ายแพ้แบบ TKO ในไฟต์ชิงแชมป์ว่างเมื่อปี 2021 ไฟต์นี้ยังถือเป็นการกลับคืนสู่กรง Octagon ของเขาหลังจากต้องรอคอยหลายปีเพื่อไฟต์กับคอเนอร์ แม็คเกรเกอร์