เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม โซเชียลมีเดียเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและความดีใจ เมื่อบิทคอยน์ (Bitcoin) ทะลุราคา $100,000 เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ โดยได้รับแรงหนุนจากความหวังของนักลงทุนในรัฐบาลสหรัฐฯ ที่สนับสนุนคริปโต หลังจากที่มูลค่าของบิทคอยน์พุ่งสูงขึ้น เหรียญคริปโตและโทเคนอื่น ๆ ก็เพิ่มขึ้นตามไปด้วย ในสัปดาห์นั้น Ripple’s XRP เพิ่มขึ้นเกือบ 50%, TRON’s TRX ขยับขึ้นกว่า 60%, และ Hedera’s HBAR พุ่งสูงถึง 90% แม้กระทั่งเหรียญมีม (Meme Coins) ก็ยังได้รับความสนใจ เช่น DOGE ของ Elon Musk ที่ถูกพูดถึงอย่างกว้างขวาง
นักลงทุนหลายคนกำลังสงสัยว่าควรเข้าร่วมตลาดคริปโตที่กำลังร้อนแรงนี้หรือไม่ ขณะที่บางคนเริ่มลงทุนครั้งแรกเพื่อหวังทำกำไร อย่างไรก็ตาม ตลาดลักษณะนี้เต็มไปด้วยความเสี่ยงที่ควรพิจารณา
### ความเสี่ยงที่นักลงทุนคริปโตควรรู้
#### การหลอกลวง
ในตลาดคริปโต มีหลายวิธีที่นักต้มตุ๋นใช้หลอกลวงผู้ลงทุนหน้าใหม่ที่อยากได้กำไรเร็ว ๆ โดยไม่ศึกษาข้อมูลตลาด เช่น การใช้เหรียญมีมที่ดูน่าสนใจและราคาพุ่งขึ้นเร็วในเวลาอันสั้น แต่เมื่อเวลาผ่านไป เหรียญเหล่านี้อาจไม่สามารถขายคืนได้ หรือผู้สร้างอาจหายตัวไปพร้อมกับเงินของนักลงทุน
อีกวิธีคือ ผู้สร้างเหรียญถือเหรียญจำนวนมากไว้เอง และเมื่อราคาสูงขึ้นก็ขายเหรียญออกทั้งหมด ทำให้ราคาตกลงอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้นักลงทุนคนอื่นขาดทุนหนัก
#### การแฮ็ก
เมื่อราคาคริปโตพุ่งสูง แฮ็กเกอร์จะพยายามหาวิธีขโมยเงินจากนักลงทุนหน้าใหม่ ทั้งการโจมตีกระเป๋าเงินดิจิทัลของผู้ใช้ หรือแม้แต่กระเป๋าเงินที่อยู่ในแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนคริปโต นอกจากนี้ ยังมีแฮ็กเกอร์มือสมัครเล่นที่ใช้วิธีหลอกลวงแบบง่าย ๆ เช่น การหลอกล่อบนแอปหาคู่ การส่งอีเมลปลอม หรือการแจกเหรียญปลอม (Fake Airdrops)
#### เหรียญที่ล้มเหลว
แม้แต่เหรียญที่ถูกสร้างโดยทีมงานมืออาชีพก็ยังมีโอกาสล้มเหลว และสูญเสียมูลค่าไปอย่างรวดเร็ว เหรียญบางตัวถูกสร้างขึ้นโดยไม่มีจุดประสงค์จริงจัง หรือเพียงเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว นักลงทุนจึงควรระมัดระวัง แม้กระทั่งเหรียญที่โปรโมตโดยคนดังหรืออินฟลูเอนเซอร์ก็ไม่ได้รับประกันว่าจะสำเร็จ ตัวอย่างเช่น เหรียญ HAWK ของ Haliey Welch ที่ถึงแม้จะได้รับความสนใจในช่วงแรก แต่ก็ล้มเหลวในที่สุด
#### ความกลัวที่จะพลาดโอกาส (FOMO)
เมื่อราคาบิทคอยน์แตะ $100,000 นักลงทุนจำนวนมากอาจตื่นเต้นและลงทุนโดยไม่คิดให้รอบคอบ พวกเขาอาจซื้อเหรียญในปริมาณมากเกินไป หรือทำการซื้อขายอย่างเร่งรีบ โดยหวังว่าจะได้กำไรจากราคาที่เพิ่มขึ้น สิ่งนี้อาจนำไปสู่การขาดทุนอย่างหนัก โดยเฉพาะหากพวกเขาไม่มีแผนการลงทุนที่ชัดเจน
#### ขาดความรู้
นักลงทุนใหม่จำนวนมากเข้าสู่ตลาดโดยไม่มีความรู้พื้นฐาน เช่น เทคโนโลยีบล็อกเชน กฎระเบียบภาษี หรือสถานะทางกฎหมายของแพลตฟอร์มคริปโต พวกเขาอาจเลือกใช้บริการแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนคริปโตเพียงเพราะความนิยม โดยไม่ตรวจสอบว่าเหมาะสมกับความต้องการของตนเองหรือไม่ บางคนยังไม่เข้าใจเครื่องมือพื้นฐาน เช่น กราฟแท่งเทียน (Candlestick Chart) หรือการตั้งคำสั่งซื้อขายอัตโนมัติ ซึ่งอาจนำไปสู่การขาดทุน
#### สิ่งที่นักลงทุนคริปโตต้องจำไว้
– อินเดียมีกรอบภาษีสำหรับสินทรัพย์ดิจิทัลที่ต้องปฏิบัติตาม มิฉะนั้นอาจเผชิญกับการดำเนินคดีทางกฎหมาย
– แพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนคริปโตสามารถหยุดการฝากหรือถอนสินทรัพย์ของคุณได้ทุกเมื่อ
– ราคาคริปโตมีความผันผวนสูง ดังนั้นสิ่งเล็ก ๆ เช่น การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตช้า หรือหน้าจอคอมพิวเตอร์ค้าง อาจทำให้สูญเสียเงินจำนวนมาก
– แม้แต่เหรียญหลอกลวงก็ยังสามารถถูกแสดงบนเว็บไซต์ติดตามราคา ทำให้นักลงทุนเข้าใจผิดว่าเป็นโปรเจกต์ที่ปลอดภัย
ตลาดคริปโตเป็นโลกที่ซับซ้อน และควรถูกมองว่าแตกต่างจากตลาดหุ้นแบบดั้งเดิม นักลงทุนควรใช้เวลาในการศึกษาและวางแผนก่อนเข้าร่วมตลาดนี้