รอสส์ เคาน์ตี้ เปิดครึ่งหลังอย่างร้อนแรงในสนามโกลบอล เอนเนอร์จี สเตเดียม และสามารถเอาชนะมาเธอร์เวลล์ไปได้ 2-1 ท่ามกลางอากาศหนาวเย็น
ประตูจากโรแนน เฮล และจอช นิสเบท ภายใน 10 นาทีหลังเริ่มครึ่งหลังช่วยให้ทีมเจ้าบ้านนำได้อย่างมั่นคง ซึ่งโดยรวมแล้วพวกเขาดูควบคุมเกมได้ดีเพื่อรักษาสามแต้มสำคัญนี้ไว้
แม้ว่าในนาทีที่ 83 แซค โรบินสัน จะโหม่งทำประตูให้มาเธอร์เวลล์ไล่ขึ้นมาได้หนึ่งลูก แต่ก็ไม่เพียงพอที่จะทำให้ทีมเยือนกลับมาเสมอในเกมนี้ได้
ในวันที่หลายแมตช์ทั่วสหราชอาณาจักรถูกยกเลิกหรือเลื่อนออกไปเพราะหิมะตกหนัก การแข่งขันในเมืองดิงวอลล์นี้ก็ใช้เวลาสักพักกว่าจะเข้าจังหวะ
เกมเริ่มต้นอย่างล่าช้าเนื่องจากมีการหยุดเกมหลายครั้งเพื่อดูแลผู้เล่นที่ได้รับบาดเจ็บ และทั้งสองทีมใช้เวลานานกว่าจะได้โอกาสทำประตูในครึ่งแรก
มาเธอร์เวลล์มีโอกาสลุ้นจากลูกฟรีคิกสองครั้ง แต่ยังไม่สามารถสร้างความท้าทายให้กับรอสส์ เลดลอว์ นายประตูของรอสส์ เคาน์ตี้ได้ ขณะที่เฮลยิงลูกไกลที่ไม่ตรงเป้าหมายในอีกฝั่งหนึ่ง
โนอาห์ ชิลเวอร์ส ยิงลูกที่เกือบจะเป็นประตูในนาทีที่ 30 แต่ถูกเซฟไว้ได้อย่างยอดเยี่ยมโดยแอสตัน ออกซ์โบโรห์ ผู้รักษาประตูของมาเธอร์เวลล์
ก่อนหมดครึ่งแรก อีวาน วิลสัน โชว์ทักษะการเลี้ยงบอลเพื่อเปิดโอกาสให้สตีฟ เซดดอน ยิงตรงกรอบ แต่เลดลอว์ปัดบอลออกไปได้อย่างปลอดภัย
เข้าสู่ครึ่งหลังเพียงไม่กี่นาที รอสส์ เคาน์ตี้ก็สามารถทำลายความเงียบของเกมได้ ในนาทีที่ 47 ชิลเวอร์สส่งบอลเข้าสู่กรอบเขตโทษ และบอลถูกเบี่ยงเข้าทางเฮล ซึ่งเขาจัดการยิงเข้ามุมล่างอย่างแม่นยำ ถือเป็นประตูที่ 8 ของเขาในฤดูกาลนี้
หลังจากนั้นเพียง 7 นาที เจ้าบ้านก็ทำประตูที่สองได้สำเร็จ บอลจากลูกเตะมุมมาถึงนิสเบทบริเวณขอบกรอบเขตโทษ เขาเลี้ยงผ่านกองหลังหนึ่งคนก่อนจะยิงเข้าประตูด้วยความช่วยเหลือเล็กน้อยจากเสาใน
แต่เกมยังมีดราม่าช่วงท้ายเมื่อมาเธอร์เวลล์ลดช่องว่างลงมาในนาทีที่ 83 จากการโหม่งของโรบินสัน ที่รับลูกฟรีคิกของเลนนอน มิลเลอร์
อย่างไรก็ตาม รอสส์ เคาน์ตี้สามารถรับมือกับแรงกดดันและรักษาสกอร์ไว้จนจบเกม หลังจากที่มีการเพิ่มเวลาแข่งขันอีก 10 นาที พวกเขาก็คว้าสามแต้มสำคัญกลับบ้านได้สำเร็จ
