เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาในมาเก๊า มีศึกใหญ่ใน UFC Fight Night ที่รวมสองนักสู้ระดับแชมป์เก่าคือ เพตร ยาน และ เดอิเวสัน ฟิเกเรโด ที่ปะทะกันในไฟต์หลักที่ยาวถึง 5 ยก โดยทั้งคู่ต่างเคยครองเข็มขัดแชมป์ถึงสองสมัยในรุ่นของตนเองมาก่อน
เพตร ยาน เอาชนะ เดอิเวสัน ฟิเกเรโด ด้วยคะแนนเอกฉันท์ นับเป็นการหยุดสถิติไร้พ่ายของฟิเกเรโดตั้งแต่เขาย้ายจากรุ่นฟลายเวตมาอยู่รุ่นแบนตัมเวต พร้อมกับกลับเข้าสู่การสนทนาเรื่องชิงแชมป์อีกครั้งในรุ่น 135 ปอนด์
แม้ว่ายานจะชนะด้วยคะแนนเต็ม 50-45 จากกรรมการทุกคน แต่ศึกนี้ถือว่าสูสีและดุเดือดตลอด 25 นาที โดยฟิเกเรโดที่ชนะรวด 3 ไฟต์ในรุ่นนี้ก่อนหน้า รวมถึงการซับมิชชันอดีตแชมป์อย่างโคดี้ การ์แบรนต์ในเดือนเมษายน ก็ไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ
ในยกแรก ฟิเกเรโดพยายามลากยานลงพื้นและใช้ทักษะยูยิตสูของเขา แต่ยานป้องกันได้ดี และสามารถพลิกสถานการณ์กลับมาคุมเกมบนพื้นได้ นอกจากนี้ยังโจมตีด้วยหมัดหนักจากด้านบน ในยกสอง ยานใช้ท่าโยนแบบโอโซโตการิที่ทรงพลังจัดการฟิเกเรโด และเริ่มเพิ่มความเข้มข้นในยกต่อ ๆ ไป
ถึงแม้ฟิเกเรโดจะเสียเปรียบเรื่องคะแนนและได้รับบาดเจ็บระหว่างไฟต์ แต่เขายังคงสู้สุดกำลังและมีจังหวะเด่น ๆ ในช่วงท้าย เช่น การทำให้ยานล้มลงในยกที่สี่ อย่างไรก็ตาม ยานยังคงควบคุมเกมด้วยจำนวนหมัดที่มากกว่า โดยเขาต่อยสำเร็จถึง 121 ครั้งจากทั้งหมด 193 ครั้ง คิดเป็นความแม่นยำสูงถึง 62%
ด้วยการเปลี่ยนท่ายืนระหว่างเซาท์พาวกับออร์โธดอกซ์อย่างคล่องตัว และการโจมตีด้วยหมัดอัปเปอร์คัตในคลินช์ ยานได้แสดงให้เห็นถึงความสามารถที่หลากหลายซึ่งช่วยให้เขาเคยขึ้นไปอยู่บนจุดสูงสุดของรุ่นที่เต็มไปด้วยนักสู้ฝีมือดีอย่างเมราบ ดวาลิชวิลี
ก่อนหน้านี้ ยานเคยคว้าแชมป์รุ่นแบนตัมเวตโดยเอาชนะโฮเซ อัลโด และเคยได้เข็มขัดเฉพาะกาลจากชัยชนะเหนือคอรีย์ แซนด์ฮาเกน ในการพบกับฟิเกเรโดครั้งนี้ เขายืนยันว่าเขายังอยู่ในระดับสูงสุดของกีฬา MMA
ชัยชนะครั้งนี้ทำให้สถิติของยานอยู่ที่ 18-5 ใน MMA แต่ตัวเลขไม่ได้บอกเล่าเรื่องราวทั้งหมด เพราะความพ่ายแพ้สามครั้งของเขาเป็นการตัดสินแบบสูสีที่สามารถออกผลอีกทางได้ และหนึ่งครั้งเกิดจากการถูกปรับแพ้ (DQ) ในไฟต์กับอัลเจเมน สเตอร์ลิง ที่ UFC 259 ซึ่งทำให้เขาสูญเสียเข็มขัดครั้งแรก
ปัจจุบัน ดวาลิชวิลีเป็นแชมป์ในรุ่นนี้ โดยเขาเอาชนะฌอน โอมัลลีย์ใน UFC 306 เดือนกันยายนที่ผ่านมา และเคยกล่าวไว้ว่าถ้าฟิเกเรโดชนะยาน เขาจะพิจารณาให้ฟิเกเรโดเป็นคู่แข่งอันดับหนึ่งสำหรับเข็มขัด
หลังจบไฟต์ ยานเรียกร้องให้ดวาลิชวิลีมาสู้กันอีกครั้ง ซึ่งแชมป์เองก็โพสต์บนโซเชียลมีเดียว่าเขาประทับใจในฟอร์มของยาน และชื่นชมไฟต์นี้ว่าเป็นการต่อสู้ที่ยอดเยี่ยม
โอมัลลีย์ยังคงอยู่ในตำแหน่งผู้ท้าชิงอันดับหนึ่ง และอุมัร นูร์มาโกเมดอฟ นักสู้ไร้พ่ายที่อยู่อันดับสองก็เพิ่งโชว์ฟอร์มแจ่มในการชนะคอรีย์ แซนด์ฮาเกน ทาง UFC ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าใครจะเป็นคู่ต่อสู้คนแรกของดวาลิชวิลี แต่มีตัวเลือกมากมายสำหรับไฟต์คุณภาพในรุ่น 135 ปอนด์ในปีหน้า
ส่วนไฟต์ร่วมหลัก (co-main event) หยาน เสี่ยวหนาน กลับมาโชว์ฟอร์มได้ดีหลังจากแพ้ในการชิงแชมป์กับจาง เหว่ยลี่ เมื่อเดือนเมษายน โดยเธอเอาชนะทาบาธา ริชชี่ไปได้อย่างสมบูรณ์แบบในคืนเดียวกัน
เหว่ยลี่ที่อยู่ที่สนาม Galaxy Arena ได้รับคำขอของเสี่ยวหนานที่ต้องการรีแมตช์เพื่อชิงแชมป์อีกครั้ง
ทางด้านมุสลิม ซาลิคอฟ จบช่วงเวลาที่แพ้ติดกันสองไฟต์ด้วยการเตะหมุนวงล้อใส่ซ่ง เคนันจนหมดสติในยกแรก นี่คือครั้งที่สองที่ซาลิคอฟใช้เทคนิคนี้ปิดเกมคู่ต่อสู้ เขาเคยใช้เตะหมุนแบบเดียวกันเอาชนะอังเดร ฟิอัลโญ่ในปี 2022
เกเบรียลลา เฟอร์นันเดสสร้างเซอร์ไพรส์ด้วยการซับมิชชันหวัง คง ซึ่งเป็นนักคิกบ็อกซิ่งระดับแชมป์ เฟอร์นันเดสใช้เตะหัวทำให้คงเสียจังหวะ ก่อนจะทุบลงพื้นและล็อก Rear-Naked Choke ทำให้นักสู้ผู้เป็นเต็ง 10 ต่อ 1 ต้องหลับไปในยกที่สอง
หวัง คง เคยเอาชนะวาเลนตินา เชฟเชนโก้ แชมป์รุ่นฟลายเวตหญิง ในการแข่งขันคิกบ็อกซิ่ง และเพิ่งเปิดตัว MMA กับชัยชนะที่ใช้เวลาเพียง 62 วินาทีเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา
จาง หมิงหยาง สร้างความตื่นเต้นให้แฟนๆ ในศึกแรกของเมนอีเวนต์ ด้วยการใช้ศอกแบบตั้งตรงเอาชนะออสซี ดิแอซในไฟต์รุ่นไลท์เฮฟวีเวต นักสู้วัย 26 ปีนี้ยังคงไร้พ่ายใน UFC ด้วยสถิติ 2-0 หลังจากเปิดตัวครั้งแรกเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
ส่วนคาร์ลอส อุลแบร์ก เอาชนะโวลคาน ออซเดเมียร์ อดีตผู้ท้าชิงแชมป์ในไฟต์รุ่นไลท์เฮฟวีเวต โดยอุลแบร์กมีชัยชนะต่อเนื่องถึง 7 ไฟต์ และพร้อมที่จะพบกับคู่ต่อสู้ระดับสูงขึ้นในการแข่งขันครั้งหน้า
ขณะที่ไฟต์รอง (prelims) เฟิง เสี่ยวฉาน ถูกหามส่งโรงพยาบาลหลังจากถูกน็อกเอาท์โดยฉือ หมิง ในการแข่งขันรุ่นสตรอว์เวต หมิงใช้เตะหัวใส่เสี่ยวฉานจนหมดสติในยกที่สาม แต่โชคดีที่เสี่ยวฉานไม่มีอาการบาดเจ็บร้ายแรง
และในไฟต์รองอื่นๆ โลเนอร์ คาวานาห์ ยังคงไร้พ่ายด้วยชัยชนะเหนือโฆเซ โอโชอา ในไฟต์รุ่นฟลายเวต ขณะที่เซียว หลง และดงฮุน ชเว ต่างก็โชว์ฟอร์มเด่นด้วยการน็อกเอาท์คู่ต่อสู้อย่างควาง เล และคิรู ซิงห์ ซาโฮตา ตามลำดับ
ศึก UFC ในมาเก๊าครั้งล่าสุดจัดขึ้นเมื่อปี 2014 โดยไมเคิล บิสปิง ซึ่งในครั้งนี้ได้เข้าร่วมเป็นผู้บรรยายด้วย
