สหรัฐฯ อาจสร้าง “คลังสำรองบิตคอยน์” ในอนาคต ซึ่งอาจเกิดขึ้นในช่วงการบริหารงานของโดนัลด์ ทรัมป์ โดยมีรัฐที่อาจสนับสนุน เช่น เพนซิลเวเนีย ฟลอริดา หรือเท็กซัส
ทีมสินทรัพย์ดิจิทัลของ VanEck ซึ่งนำโดยแมทธิว ซิเกล และแพทริก บุช ได้เผยแพร่รายงานที่คาดการณ์ 10 แนวโน้มสำคัญในตลาดคริปโตสำหรับปี 2025
จากการตรวจสอบการคาดการณ์ปี 2024 ของพวกเขาที่ทำคะแนนได้ 8.5 จาก 15 คะแนน ทีมยังคงมองในแง่ดีต่อเส้นทางของตลาด แม้ว่าจะยอมรับความผิดพลาดในอดีต โดยพวกเขาคาดว่าปี 2025 จะเป็นปีที่ยิ่งใหญ่สำหรับคริปโต โดยเฉพาะบิตคอยน์ (BTC) ที่อาจทำสถิติใหม่
VanEck คาดการณ์ว่าตลาดคริปโตจะถึงจุดสูงสุดในช่วงไตรมาสแรกของปี 2025 โดยราคาบิตคอยน์อาจพุ่งสูงถึง $180,000 และอีเธอเรียม (ETH) อาจเกิน $6,000
อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นตลาดอาจมีการปรับฐาน โดยราคาบิตคอยน์อาจลดลงถึง 30% และเหรียญอื่น ๆ (Altcoins) อาจลดลงมากกว่านั้น แต่ตลาดคาดว่าจะฟื้นตัวภายในสิ้นปี และอาจกลับไปถึงหรือเกินจุดสูงสุดเดิม
หากทรัมป์ได้รับเลือกอีกครั้ง นโยบายเกี่ยวกับคริปโตในสหรัฐฯ อาจเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น โดยมีโอกาสที่รัฐบาลสหรัฐฯ หรือรัฐบางรัฐ เช่น เพนซิลเวเนีย ฟลอริดา หรือเท็กซัส จะสร้างคลังสำรองบิตคอยน์เพื่อใช้เป็นการป้องกันความไม่แน่นอนทางการเงิน และดึงดูดการลงทุนด้านคริปโต
ในช่วงการบริหารงานของทรัมป์ เจ้าหน้าที่ที่มีมุมมองเชิงบวกต่อคริปโตได้รับการแต่งตั้งมากขึ้น แสดงให้เห็นถึงทิศทางที่รัฐบาลอาจนำบิตคอยน์มาเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์สำรองระดับชาติ
มูลค่าของหลักทรัพย์ที่ถูกโทเค็นไว้อาจเกิน $50 พันล้าน ซึ่งสะท้อนถึงการใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนเพื่อความปลอดภัย โปร่งใส และมีประสิทธิภาพในการทำธุรกรรมดิจิทัล
ปริมาณการชำระเงินด้วย Stablecoins ต่อวัน อาจสูงถึง $300 พันล้าน โดยได้รับแรงหนุนจากการนำไปใช้ในระบบการชำระเงินของบริษัทเทคโนโลยีใหญ่ ๆ และสถาบันการเงินแบบดั้งเดิม ซึ่งเน้นถึงศักยภาพของ Stablecoins ในการเป็นส่วนสำคัญของการค้าระดับโลกและการโอนเงิน
กิจกรรมบนเชนของ AI อาจเกินหนึ่งล้านครั้ง ซึ่งสะท้อนถึงการเติบโตในองค์กรอิสระแบบกระจายศูนย์ (DAOs) และแอปพลิเคชัน AI บนบล็อกเชน สอดคล้องกับแนวโน้มที่ AI เข้ามามีบทบาทในหลายภาคส่วน เช่น การเงิน โซเชียลมีเดีย และเกม
มูลค่ารวมที่ถูกล็อกไว้ในเครือข่าย Layer-2 ของบิตคอยน์ คาดว่าจะถึง 100,000 BTC เครือข่ายเหล่านี้มีเป้าหมายเพื่อเพิ่มความสามารถในการปรับขนาดและการใช้งานของบิตคอยน์ โดยทำให้ธุรกรรมเร็วขึ้นและรองรับฟังก์ชันสมาร์ทคอนแทร็กต์
Ethereum Blob Space คาดว่าจะสร้างรายได้ค่าธรรมเนียมถึง $1 พันล้าน ภายในปี 2025 เนื่องจากความต้องการพื้นที่จัดเก็บข้อมูลบน Ethereum เพิ่มขึ้น จากการใช้งานโซลูชัน Layer-2 ที่มากขึ้น
ภาค DeFi คาดว่าจะมียอดการทำธุรกรรมที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยมูลค่าการซื้อขายบน DEX อาจแตะ $4 ล้านล้าน และ TVL อาจสูงถึง $200 พันล้าน ซึ่งสะท้อนถึงนวัตกรรมและการลงทุนที่ต่อเนื่องในระบบนิเวศ DeFi
ปริมาณการซื้อขาย NFT คาดว่าจะกลับมาฟื้นตัว โดยแตะ $30 พันล้าน การฟื้นตัวนี้อาจได้รับแรงสนับสนุนจากความสนใจในคอลเลกชันชื่อดังและการยอมรับ NFT เป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีมูลค่า
ช่องว่างระหว่างประสิทธิภาพของโทเค็น DApp และโทเค็น Layer-1 คาดว่าจะลดลง เนื่องจากแอปพลิเคชันใหม่ ๆ ช่วยเพิ่มคุณค่าและประโยชน์ให้กับ DApps ซึ่งส่งผลให้ประสิทธิภาพตลาดดีขึ้นเมื่อเทียบกับเครือข่ายบล็อกเชนพื้นฐาน
