Home การเข้ารหัสลับ แนวโน้มคริปโต 2025: AI, โทเคไนซ์, และ DePIN

แนวโน้มคริปโต 2025: AI, โทเคไนซ์, และ DePIN

10
0

ปี 2024 เริ่มต้นด้วยการเปิดตัว Bitcoin ETFs และไม่นานหลังจากนั้น Ethereum ETFs ก็ได้รับการอนุมัติอย่างไม่คาดคิด Bitcoin ทำลายสถิติสูงสุดตลอดกาล โดยทะลุเกณฑ์ $100,000 ที่รอคอยมานาน ความสนใจจากสถาบันในเทคโนโลยีสินทรัพย์ดิจิทัล เช่น บล็อกเชน การโทเคไนซ์ และสเตเบิลคอยน์เพิ่มสูงขึ้นกว่าที่เคย อย่างไรก็ตาม ความก้าวหน้าเหล่านี้อาจเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต

รายงานแนวโน้มสินทรัพย์ดิจิทัลและคริปโตเคอร์เรนซีปี 2025 ได้วิเคราะห์พัฒนาการที่อาจเกิดขึ้นในอุตสาหกรรมนี้ โดยมีการเน้นถึงแนวโน้มสำคัญ เช่น การกระจายอำนาจของ AI การโทเคไนซ์เงินฝากที่เติบโตขึ้น และการใช้โครงสร้างพื้นฐานทางกายภาพแบบกระจายศูนย์ (DePIN) ที่มากขึ้น

ปัญญาประดิษฐ์ (AI) กลายเป็นหัวข้อหลัก โดยธุรกิจหลากหลายขนาดต่างมองหาวิธีนำเทคโนโลยีนี้มาใช้ในกระบวนการทำงาน อุตสาหกรรมคริปโตก็ไม่ต่างกัน AI แบบเปิดและกระจายศูนย์สามารถให้ประโยชน์ที่แตกต่างจาก AI แบบรวมศูนย์ที่ได้รับความนิยมจนถึงปัจจุบัน

AI แบบโอเพ่นซอร์สช่วยลดปัญหาด้านความลำเอียง ข้อมูลเท็จ หรือการเซ็นเซอร์ ซึ่งบางครั้งพบใน AI แบบรวมศูนย์ นอกจากนี้ บล็อกเชนยังสามารถเป็นแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้สำหรับ AI เนื่องจากข้อมูลบนบล็อกเชนมีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ และไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้

การติดตั้ง AI บนบล็อกเชนช่วยให้ชุมชนควบคุมพัฒนาการในอนาคตได้ ผู้ใช้สามารถกำหนดวิธีที่ AI ใช้ข้อมูล ซึ่งเพิ่มความรับผิดชอบและลดความเสี่ยงของการใช้งานในทางที่ผิด

อย่างไรก็ตาม AI ต้องการพลังงานจำนวนมาก เนื่องจากต้องพึ่งพาศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ที่ใช้ชิปประสิทธิภาพสูง โครงสร้างพื้นฐานแบบกระจายศูนย์ (DePIN) จึงเป็นทางเลือกที่กำลังเกิดขึ้น แทนที่จะพึ่งศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่เพียงแห่งเดียว เครือข่ายของโหนดบล็อกเชนสามารถสร้างความยืดหยุ่นที่สูงขึ้น หากโหนดหนึ่งล้มเหลว โครงข่ายทั้งหมดก็ยังทำงานได้

DePIN ยังเปิดโอกาสให้ธุรกิจขนาดเล็กเข้าถึง AI และนำไปใช้ประโยชน์ได้ง่ายขึ้น โมเดลแบบกระจายศูนย์ช่วยให้ธุรกิจเหล่านี้สามารถปรับเทคโนโลยีให้เหมาะสมกับความต้องการเฉพาะ และขยายตัวได้ตามการเติบโต

นอกจากนี้ การโทเคไนซ์สินทรัพย์ในโลกจริงยังคงเป็นหัวข้อสำคัญในปี 2024 การสร้างสินทรัพย์ดิจิทัล เช่น หุ้น โฉนดที่ดิน งานศิลปะ และของสะสมยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง แต่หนึ่งในแนวโน้มที่สำคัญที่สุดในปี 2025 คือการโทเคไนซ์เงินฝาก

เงินฝากแบบโทเคไนซ์คือเวอร์ชันดิจิทัลของเงินฝากธนาคาร ซึ่งออกโดยธนาคารและติดตามเหมือนเงินในบัญชีธนาคาร สิ่งนี้แตกต่างจากสเตเบิลคอยน์ซึ่งส่วนใหญ่ถูกออกโดยบริษัทที่ไม่ใช่ธนาคาร แม้ว่าทั้งสองจะเป็นตัวแทนของเงินเฟียตบนบล็อกเชนก็ตาม

สเตเบิลคอยน์มีบทบาทสำคัญในการช่วยคนที่ไม่มีบัญชีธนาคาร หรือประชาชนในประเทศที่มีค่าเงินผันผวน ขณะที่เงินฝากแบบโทเคไนซ์นำเสนอความเร็วและค่าธรรมเนียมต่ำแบบเดียวกับสเตเบิลคอยน์ แต่ทำงานในสภาพแวดล้อมของธนาคารที่ได้รับการควบคุม

ธนาคารยังเริ่มนำสินทรัพย์ เช่น สินเชื่อบ้านและสินเชื่อส่วนบุคคลเข้าสู่ระบบบล็อกเชนมากขึ้น ซึ่งช่วยให้โปร่งใสและรวดเร็วขึ้นสำหรับทั้งธนาคารและผู้บริโภค แนวโน้มนี้จะยังคงเติบโตต่อไปเมื่อธุรกิจมองหาวิธีการเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุน

ขณะเดียวกัน กฎระเบียบเกี่ยวกับคริปโตในบางพื้นที่ เช่น ยุโรป ได้รับการพัฒนาไปมาก เช่น กรอบกฎหมาย MiCA ที่ช่วยให้บริษัทคริปโตดำเนินการได้ง่ายขึ้น อย่างไรก็ตาม ในสหรัฐฯ การขาดกฎระเบียบที่ชัดเจนยังคงเป็นปัญหาใหญ่ ซึ่งอาจต้องใช้เวลาสำหรับกรอบกฎหมายใหม่ที่จะถูกอนุมัติและนำมาใช้

แม้จะมีความท้าทาย แต่ก็ชัดเจนว่าอุตสาหกรรมนี้กำลังเดินหน้าอย่างรวดเร็ว ทั้งบุคคลและธุรกิจควรติดตามและเตรียมพร้อมสำหรับโอกาสในการปรับตัวและรวมเทคโนโลยีนี้เข้ากับระบบที่มีอยู่ เพราะนี่อาจเป็นอนาคตของโลกเศรษฐกิจดิจิทัล

W88 ร่วมสนุกกับการเดิมพันและเกมคาสิโนที่ดีที่สุด เพลิดเพลินกับกีฬาสด, สล็อต, โป๊กเกอร์ และอื่นๆ สมัครวันนี้เพื่อรับรางวัลสุดพิเศษ พร้อมความบันเทิงที่ไม่หยุดยั้ง!

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here