แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและความแข็งแกร่งที่ผู้จัดการทีม รูเบน อาโมริม ต้องการ หลังจากทำประตูแรกที่แอนฟิลด์ได้ตั้งแต่ปี 2018 และเก็บผลเสมอ 2-2 กับลิเวอร์พูล ทีมจ่าฝูงของพรีเมียร์ลีกได้สำเร็จ
แฟนบอลเจ้าบ้านเตรียมฉลองชัยชนะในวันอาทิตย์ เมื่อทีมของอาร์เน่ สล็อต เกือบจะนำห่างอาร์เซนอลถึง 8 คะแนน โดยยังมีเกมในมือเหลืออีก 1 นัด แต่ในนาทีที่ 80 อาหมัด ดิยัลโล ยิงลูกสำคัญจากการเปิดบอลของอเลฮานโดร การ์นาโช่ ทำให้ยูไนเต็ดเก็บคะแนนสำคัญได้ หลังจากที่พวกเขาเสียประตูจนตามหลัง 2-1 จากประตูของโคดี้ กัคโป และจุดโทษของโมฮาเหม็ด ซาลาห์
ฟอร์มการเล่นครั้งนี้คงทำให้อาโมริมพอใจ เพราะเขาเคยเรียกร้องให้ผู้นำในทีมแสดงบทบาทมากขึ้น หลังจากพ่ายแพ้ไปถึง 5 นัดจาก 8 เกมแรกที่เขาคุมทีม การที่ยูไนเต็ดสามารถกลับมาได้ในการพบลิเวอร์พูลนั้นไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ เพราะการแข่งขันระหว่างสองสโมสรที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในอังกฤษมักเต็มไปด้วยความดุเดือดเสมอ
ในขณะที่ยูไนเต็ดแสดงให้เห็นถึงความกล้าหาญและความแข็งแกร่ง ฝั่งลิเวอร์พูลกลับดูเหมือนจะไม่กระตือรือร้นมากนักในเกมนี้ แม้การแข่งขันจะได้รับอนุญาตให้เริ่มเล่นในช่วงเที่ยงวันหลังจากหิมะตกหนักในพื้นที่เมอร์ซีย์ไซด์
อย่างไรก็ตาม ลิเวอร์พูลเริ่มเร่งจังหวะในครึ่งหลังหลังจากที่ลูกยิงสุดแรงของลิซานโดร มาร์ติเนซ เอาชนะอลิสซอน เบคเกอร์ และกระดอนเข้าประตูจากคานบน โคดี้ กัคโป ซึ่งทำประตูที่ 10 ของเขาใน 15 นัดล่าสุด โชว์ฝีเท้าด้วยการเลี้ยงบอลเข้าขวาและยิงลูกทรงพลังผ่านอันเดร โอนาน่า
ต่อมาซาลาห์ยิงจุดโทษสำคัญ ซึ่งเป็นประตูที่ 18 ของเขาในฤดูกาลนี้ ทำให้เขาขึ้นไปอยู่ในอันดับที่เจ็ดร่วมกับเธียร์รี่ อองรี บนตารางดาวซัลโวตลอดกาลของพรีเมียร์ลีกด้วยจำนวน 175 ประตู การตัดสินใจให้จุดโทษมาจากการตรวจสอบ VAR หลังจากลูกโหม่งของแม็ค อัลลิสเตอร์ไปโดนแขนของมัทไธจ์ส เดอ ลิกต์ ผู้รักษาประตูโอนาน่าพยายามเดาทางแต่ลูกยิงของซาลาห์ทรงพลังเกินไป
แม้สถานการณ์จะดูเหมือนเป็นชัยชนะของลิเวอร์พูล แต่อาหมัด ดิยัลโล กลับมาแย่งแต้มสำคัญให้กับยูไนเต็ดได้ในช่วงท้ายเกม
ในเกมที่เต็มไปด้วยดราม่าอีกเกมในวันเดียวกัน ราอูล ฆิเมเนซ ยิงจุดโทษในนาทีที่ 91 เพื่อช่วยฟูแล่มตีเสมอ 2-2 กับอิปสวิชในบ้านตัวเอง ฟูแล่มซึ่งตามหลังอยู่สองครั้งในเกมนี้ ได้รับการช่วยชีวิตจากฆิเมเนซที่ยิงจุดโทษสำคัญทั้งสองครั้ง
อิปสวิชขึ้นนำครั้งแรกในนาทีที่ 38 จากแซม ซซ์โมดิคส์ ก่อนฆิเมเนซตีเสมอในนาทีที่ 69 และจากนั้นอิปสวิชก็ขึ้นนำอีกครั้งด้วยจุดโทษของเลียม เดลาป ในนาทีที่ 71 แต่เมื่อฆิเมเนซถูกเลฟ เดวิส ทำฟาวล์ในกรอบเขตโทษ กรรมการชี้ให้เป็นจุดโทษอีกครั้ง และฆิเมเนซไม่พลาดที่จะยิง
ฟูแล่มตอนนี้อยู่ในอันดับที่ 9 ส่วนอิปสวิชอยู่ในอันดับที่ 18 และต่ำกว่าวูล์ฟส์เนื่องจากผลต่างประตู แม้ว่าจะเล่นมากกว่า 1 เกมก็ตาม
