จากการสำรวจล่าสุดโดยธนาคารดิจิทัลของสวิส Sygnum พบว่า 72% ของนักลงทุนสถาบัน รวมถึงสำนักงานครอบครัว ผู้จัดการสินทรัพย์ภายนอก ผู้จัดการกองทุน และเฮดจ์ฟันด์ มีความสนใจที่จะลงทุนในสินทรัพย์คริปโต
การสำรวจนี้จัดขึ้นในช่วงสิ้นไตรมาสที่ 3 ปี 2024 โดยรวบรวมคำตอบจากนักลงทุนสถาบันและมืออาชีพกว่า 400 คนจาก 27 ประเทศ ซึ่งในกลุ่มผู้ตอบแบบสอบถามนี้ 33% เป็นลูกค้าและนักลงทุนของ Sygnum เอง
สิ่งที่น่าสนใจคือ การสำรวจพบว่าความสนใจในความเสี่ยงของนักลงทุนแบบดั้งเดิมต่อสินทรัพย์ดิจิทัลเพิ่มขึ้น โดยมากกว่า 53% ของพอร์ตการลงทุนของลูกค้าได้จัดสรรเงินลงทุนมากกว่า 10% ไปยังสินทรัพย์คริปโต
63% ของผู้ตอบแบบสอบถามระบุว่าพวกเขามี “ความพร้อมรับความเสี่ยงสูง” สำหรับสินทรัพย์ดิจิทัล เมื่อเทียบกับปี 2023 จะเห็นได้ว่าสัดส่วนของผู้ที่มีความพร้อมรับความเสี่ยงสูงหรือสูงมากต่อสินทรัพย์คริปโตเพิ่มขึ้นในปี 2024
นอกจากนี้ 91% ของผู้ตอบแบบสอบถามยังรายงานว่าพวกเขาลงทุนในโปรเจกต์บล็อกเชนชั้นนำ เช่น บิทคอยน์ (BTC) และอีเธอเรียม (ETH) ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามีแนวโน้มที่นักลงทุนจะเลือกสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีความผันผวนน้อยกว่า
เหตุผลหลักที่นักลงทุนหันมาลงทุนในสินทรัพย์คริปโตคือ 62% ต้องการได้รับผลประโยชน์จากศักยภาพในอนาคตของแนวโน้มสินทรัพย์ดิจิทัล ขณะที่ 52% ต้องการกระจายความเสี่ยงในพอร์ตการลงทุน 45% มองว่าเป็นการป้องกันความเสี่ยงในระดับมหภาคต่อความไม่แน่นอนทางการเมืองและการลดค่าเงิน และอีก 38% ต้องการสร้างผลตอบแทนจากการลงทุน
สิ่งที่น่าสนใจคือ ในปี 2023 มีนักลงทุนถึง 44% ที่มองว่าสินทรัพย์คริปโตเป็นประเภทสินทรัพย์ทางเลือก แต่ในปี 2024 กลับลดลงเหลือเพียง 31% ซึ่งแสดงถึงการเติบโตและความเป็นที่ยอมรับของสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งได้รับแรงหนุนจากความสำเร็จของกองทุน ETF คริปโต
ผลการสำรวจยังแสดงให้เห็นว่า 79% ของผู้ตอบแบบสอบถามมีแผนที่จะเพิ่มการลงทุนในสินทรัพย์คริปโตภายใน 12 เดือนข้างหน้า โดยมีนักลงทุนจำนวนมากที่ยังไม่มีประสบการณ์ในการลงทุนคริปโตมีแผนที่จะเข้าสู่ตลาดนี้ ซึ่งคาดว่าจะมีการไหลเข้าของเงินทุนใหม่ภายในกลางปี 2025
อีกหนึ่งข้อมูลที่น่าสนใจคือ ความไม่แน่นอนด้านกฎระเบียบเกี่ยวกับคริปโตไม่ได้เป็นอุปสรรคหลักในการลงทุนอีกต่อไป ในปีนี้ 53% ของผู้ตอบแบบสอบถามกล่าวว่าความผันผวนของสินทรัพย์เป็นสาเหตุหลักที่ไม่เข้าสู่ตลาดคริปโต ขณะที่อีก 50% กล่าวถึงปัญหาความไว้วางใจเป็นอุปสรรคสำคัญในการลงทุน
เมื่อดูในด้านของกลุ่มคริปโตที่นักลงทุนให้ความสนใจ พบว่า 76% สนใจบล็อกเชน Layer 1 เช่น บิทคอยน์และอีเธอเรียม ขณะที่ 55% ของลูกค้าให้ความสนใจในโครงสร้างพื้นฐานของเว็บ3 ซึ่งได้รับแรงหนุนจากการเติบโตของ AI และเครือข่ายโครงสร้างพื้นฐานทางกายภาพแบบกระจาย (DePIN) ตามมาด้วยระบบ Layer 2 ซึ่งมีนักลงทุนสนใจ 41%
สุดท้ายนี้ มีถึง 71% ของผู้ตอบแบบสอบถามที่บอกว่าการอนุมัติ ETF บิทคอยน์และอีเธอเรียมโดยสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐ (SEC) ช่วยเพิ่มความมั่นใจในการลงทุนคริปโตอย่างมาก
ข้อมูลจาก SoSoValue แสดงให้เห็นว่าสินทรัพย์สุทธิรวมที่ถือโดย ETF บิทคอยน์ในสหรัฐอยู่ที่ $95.40 พันล้าน ในขณะที่ ETF อีเธอเรียมถือสินทรัพย์อยู่ที่ $9.48 พันล้าน และเมื่อไม่นานมานี้ ETF บิทคอยน์ของ BlackRock มียอดถือครองสินทรัพย์สูงกว่า ETF ทองคำของบริษัท
ณ ขณะนี้ บิทคอยน์มีราคาซื้อขายอยู่ที่ $91,200 เพิ่มขึ้น 4% ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ขณะที่มูลค่าตลาดรวมของคริปโตทั้งหมดอยู่ที่ $3.14 ล้านล้าน เพิ่มขึ้น 1.7% ในช่วงเวลาเดียวกัน
