โอมาร์ มาร์มุช ทำประตูได้อีกครั้ง และไอน์ทรัค แฟรงก์เฟิร์ต เอาชนะความพยายามคัมแบ็คของสตุ๊ตการ์ท ด้วยผล 3-2 ในศึกบุนเดสลีกาเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
คริส ฟูห์ริช ทำประตูในช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีที่ 7 ทำให้แฟนๆ สตุ๊ตการ์ทดีใจสุดๆ แต่ VAR กลับยกเลิกประตูเนื่องจากล้ำหน้า ทำให้ทั้งผู้เล่นและแฟนๆ ต้องผิดหวัง
“มันขมขื่นมาก” เออร์เมดิน เดมิโรวิช กล่าว เขาคือคนที่พลาดจุดโทษในช่วงก่อนหน้า “ผมรู้สึกว่างเปล่า”
ก่อนหน้านั้น สตุ๊ตการ์ทตามหลัง 3-0 โยชา วักโนมัน ทำประตูในนาทีที่ 86 และนิค โวลเทมาเด ยิงเพิ่มในนาทีที่ 90 ทำให้ดูเหมือนว่าพวกเขาอาจจะคัมแบ็คได้สำเร็จ แต่สุดท้ายก็ไม่พอ
โอมาร์ มาร์มุช นักเตะจากอียิปต์ ทำผลงานได้ยอดเยี่ยมอีกครั้งในฤดูกาลนี้ ด้วยการทำไปแล้ว 11 ประตูจาก 10 นัดในลีก เทียบเท่ากับ แฮร์รี่ เคน สตาร์ของบาเยิร์น มิวนิค ที่ทำประตูส่วนใหญ่จากจุดโทษ โดยเคนมีจุดโทษ 3 ครั้ง ส่วนมาร์มุชทำจากจุดโทษเพียง 2 ครั้งเท่านั้น
ถึงแม้มาร์มุชจะพลาดโอกาสในช่วงต้นเกม แต่สตุ๊ตการ์ทกลับเป็นฝ่ายครองเกมได้มากกว่าในช่วงแรก
เดมิโรวิช พลาดจุดโทษที่ถูกเซฟโดย เควิน ทรัปป์ ผู้รักษาประตูแฟรงก์เฟิร์ต ส่วน ยูเลียน ชาโบต์ ก็มีประตูถูกยกเลิกเพราะล้ำหน้า และ เอนโซ มิลโล ยิงข้ามคานไป
แต่แล้ว มาร์มุชก็ส่งลูกเตะมุมให้ ฮิวโก้ เอกิติเก้ โหม่งทำประตูก่อนหมดครึ่งแรก ซึ่งเป็นประตูที่ 5 ของเอกิติเก้ในลีกฤดูกาลนี้ และยังเป็นแอสซิสต์ที่ 8 ของมาร์มุช เทียบเท่ากับแฮร์รี่ เคน ที่ทำแอสซิสต์ได้ 8 ครั้งในบุนเดสลีกาฤดูกาลนี้เช่นกัน
หลังจากพักครึ่ง มาร์มุชยังมีส่วนสำคัญอีกครั้ง เมื่อเขาส่งบอลให้ แอนสการ์ คเนาฟ วิ่งไปทางแนวรับของสตุ๊ตการ์ท และเปิดบอลให้ นาธาเนียล บราวน์ ยิงเข้าไปในนาทีที่ 55
จากนั้น มาร์มุชก็มาทำประตูได้เองจากฟรีคิกที่ยอดเยี่ยมทางเสาด้านซ้ายในนาทีที่ 62 ซึ่งเป็นประตูที่ตัดสินผลการแข่งขัน
ผลการแข่งขันครั้งนี้ทำให้แฟรงก์เฟิร์ตอยู่ในอันดับสามของตาราง ห่างจากไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น แชมป์เก่า 3 คะแนน และตามหลังบาเยิร์น มิวนิค จ่าฝูงอยู่ 6 คะแนน
ก่อนหน้านี้ เอาก์สบวร์ก เสมอกับ ฮอฟเฟ่นไฮม์ 0-0 และเฮเดนไฮม์ พบกับ โวล์ฟสบวร์ก ในช่วงเย็นวันอาทิตย์
