ปี 2024 เป็นปีที่น่าตื่นเต้นสำหรับนักลงทุนคริปโต โดยเฉพาะ Bitcoin ที่ทำผลงานได้โดดเด่นที่สุด มูลค่าของ Bitcoin เพิ่มขึ้นถึง 140% ในเวลาเพียง 12 เดือน เริ่มต้นปีด้วยราคาประมาณ $42,000-$43,000 และพุ่งทะลุสถิติใหม่ที่ $108,000 ในเดือนธันวาคม ซึ่งผลตอบแทนนี้สูงกว่าสินทรัพย์การลงทุนแบบดั้งเดิม เช่น ดัชนี Nifty50 ที่เพิ่มขึ้นเพียง 10% และทองคำที่ขึ้นมากกว่า 20% เท่านั้น
ปัจจัยหลายอย่างช่วยผลักดันให้ราคา Bitcoin พุ่งสูงขึ้นในปีนี้ หนึ่งในเหตุการณ์สำคัญคือการที่คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ (SEC) อนุมัติ ETF Bitcoin ตัวแรกในเดือนมกราคม ซึ่งทำให้นักลงทุนสามารถเข้าถึง Bitcoin ได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ ในเดือนกรกฎาคม อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้กล่าวสุนทรพจน์ในการประชุม Bitcoin และการชนะเลือกตั้งของเขาในเดือนพฤศจิกายนก็ช่วยเสริมความเชื่อมั่นให้กับตลาดคริปโต
หลังจากนั้น ทรัมป์ได้แต่งตั้ง Paul Atkins ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนคริปโตอย่างชัดเจน ให้ดำรงตำแหน่งประธาน SEC การตัดสินใจนี้ส่งสัญญาณถึงโอกาสที่กฎระเบียบเกี่ยวกับคริปโตอาจเป็นมิตรกับตลาดมากขึ้น ส่งผลให้นักลงทุนมีความมั่นใจเพิ่มขึ้น
อีกหนึ่งปัจจัยที่ส่งผลดีต่อ Bitcoin คือการลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ในเดือนกันยายน Fed ได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 50 จุดฐานเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปี และในเดือนพฤศจิกายนและธันวาคม ได้ลดเพิ่มอีกครั้งละ 25 จุดฐาน การลดอัตราดอกเบี้ยมักทำให้นักลงทุนย้ายเงินไปยังสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงขึ้น เช่น Bitcoin
สถานการณ์ทางการเมืองโลกก็มีส่วนช่วยสนับสนุนการเติบโตของคริปโตเช่นกัน ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน ได้วิจารณ์การใช้ดอลลาร์สหรัฐในฐานะสกุลเงินโลก และกล่าวว่าประเทศต่าง ๆ ควรพิจารณาทางเลือกใหม่ เช่น Bitcoin โดยเขาได้กล่าวว่า “ตัวอย่างเช่น Bitcoin ใครจะมาห้ามมันได้? ไม่มีใครทำได้” ซึ่งเป็นการแสดงออกถึงการสนับสนุนคริปโตอย่างชัดเจน
ยุโรปเองก็เริ่มเปลี่ยนแปลงท่าทีต่อคริปโต โดยโปแลนด์และอิตาลีได้ทบทวนกฎหมายภาษีเกี่ยวกับคริปโต ขณะที่สหภาพยุโรปก็มีความก้าวหน้าในการสร้างกรอบการกำกับดูแล เช่น MiCA แม้แต่จีนที่เคยมีท่าทีวิจารณ์คริปโตก็เริ่มแสดงสัญญาณเปิดกว้างมากขึ้น
ไม่ใช่แค่ Bitcoin เท่านั้นที่ทำผลงานได้ดีในปีนี้ แต่เหรียญคริปโตอื่น ๆ หรือที่เรียกว่า Altcoins ก็สร้างผลตอบแทนที่น่าประทับใจเช่นกัน โทเคนอย่าง Solana (SOL), Ethereum (ETH), Ripple (XRP), และ Cardano (ADA) ต่างแตะระดับใกล้เคียงจุดสูงสุดเดิม ขณะที่เหรียญเล็ก ๆ อย่าง PaLM AI และ MANTRA ก็เพิ่มขึ้นมากกว่า 1,50,000%
“ไม่เพียงแค่ Bitcoin เท่านั้น โทเคนอื่น ๆ เช่น XRP และ SOL ก็ทำสถิติสูงสุดใหม่ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเติบโตของตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล” ผู้เชี่ยวชาญในวงการกล่าว
เมื่อปี 2024 กำลังจะสิ้นสุด ตลาดคริปโตได้พิสูจน์ถึงความแข็งแกร่งและศักยภาพในการเติบโตของมัน การที่ Bitcoin ทะลุ $100,000 และ Altcoins หลายตัวแตะจุดสูงสุดใหม่ ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญสำหรับสินทรัพย์ดิจิทัล ด้วยความชัดเจนด้านกฎระเบียบและการยอมรับจากสถาบันที่เพิ่มขึ้น ปี 2025 อาจเป็นอีกปีที่เปลี่ยนแปลงวงการคริปโตไปอย่างสิ้นเชิง
แรงผลักดันที่แข็งแกร่งจากปี 2024 น่าจะดำเนินต่อไปในปี 2025 ด้วยการนำกฎระเบียบที่ชัดเจนขึ้นมาใช้ จะมีคนทั่วไปเข้ามาลงทุนเพิ่มขึ้น ขณะที่สถาบันการเงินจะเริ่มลงทุนมากขึ้นผ่าน ETF ใหม่ ๆ สำหรับ Solana และ Ripple หากทุกอย่างเป็นไปตามเงื่อนไขที่เอื้อต่อการเติบโต Bitcoin อาจแตะ $200,000 ภายในสิ้นปี 2025 ซึ่งจะเป็นการเข้าสู่ยุคใหม่ของตลาดนี้
อินเดียก็โดดเด่นขึ้นในฐานะผู้นำระดับโลกด้านการยอมรับคริปโตในปี 2024 และปี 2025 ก็ดูเหมือนจะมีศักยภาพมากยิ่งขึ้น ด้วยกฎระเบียบที่ชัดเจนและการบูรณาการเข้าสู่กระแสหลักอย่างรวดเร็ว การพัฒนาของคริปโตในอินเดียและทั่วโลกจะกำหนดอนาคตของการเงินระดับโลก
เทคโนโลยี AI จะมีบทบาทสำคัญในการช่วยพัฒนาอุตสาหกรรมคริปโตในปี 2025 ไม่ว่าจะเป็นการเสริมกลยุทธ์การซื้อขายหรือปรับปรุงประสบการณ์ผู้ใช้ ความมั่นใจจากสถาบันที่เพิ่มขึ้นและการเปลี่ยนแปลงด้านกฎระเบียบอาจผลักดันให้ Bitcoin พุ่งไปยังระดับใหม่ ๆ ได้
ความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับโซลูชัน Tokenization จะสร้างโอกาสในหลายภาคส่วน ปี 2025 จะเป็นช่วงเวลาที่ธุรกิจต่าง ๆ สามารถใช้ประโยชน์จากความหลากหลายใน Tokenization เพื่อเจาะตลาดใหม่ ๆ และสร้างอนาคตทางการเงินที่เปิดกว้างและรุ่งเรืองยิ่งขึ้น
จากแนวโน้มในอดีต ตลาดคริปโตมักจะมีจุดสูงสุดหลังจากการ Halving ของ Bitcoin ดังนั้น ปี 2025 จึงเป็นปีที่น่าจับตามอง อย่างไรก็ตาม จุดสูงสุดนี้มักจะตามมาด้วยตลาดหมีระยะยาว เช่นเดียวกับรอบก่อนหน้า สำหรับตอนนี้ ผู้ที่อดทนผ่านช่วงเวลาท้าทายในปี 2024 ได้เริ่มเห็นผลตอบแทนแล้ว การวางกลยุทธ์อย่างรอบคอบและเข้าใจธรรมชาติแบบวัฏจักรของคริปโตจะเป็นกุญแจสำคัญในการประสบความสำเร็จ